หนุ่มขี่ จยย.หัวร้อน ชักปืนไล่ยิงรถเมล์ ฉุนปล่อยควันดำ

กรุงเทพฯ 3 ธ.ค. – เดือดกลางถนน หนุ่มขี่ จยย. ดักหน้ารถเมล์ ก่อนถามเรื่องควันดำ คนขับตอบไม่รู้ ชักปืนกระหน่ำยิง ต้องขับหนีสุดระทึก ล่าสุดมอบตัวแล้ว พบเป็นตำรวจสังกัดหนึ่ง ก่อนได้ประกันตัวออกไป


เป็นคลิปที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากมีชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามรถเมล์ จากนั้นเปิดฉากยิงเข้าใส่ 1 นัด ทำให้กระเป๋ารถเมล์ รวมถึงคนขับ ต้องหลบกระสุนเพื่อเอาชีวิตรอด เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.15 น. ขณะที่รถเมล์สาย 71 กำลังขับออกจากอู่ ซึ่งอยู่ใกล้กับสวนสยาม มุ่งหน้าไปที่วัดธาตุทอง

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เกิดขึ้นเริ่มจากรถเมล์กำลังขับมาถึงแยกโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ได้มีชายไทยขี่รถจักรยานยนต์มาจอดขวางหน้ารถ จากนั้นลงจากรถจักรยานยนต์เดินมาถามคนขับรถเมล์ว่า “รถควันดำไม่ผิดกฎหมายหรือ” คนขับรถเมล์ตอบไปว่า “ไม่ทราบเหมือนกัน ต้องไปถามช่างหรือหัวหน้า” ชายคนดังกล่าวจึงพูดว่า “ขับรถดีๆ นะ” ก่อนเดินไปหยิบอาวุธปืนไม่ทราบขนาดใต้เบาะรถจักรยานยนต์ เมื่อคนขับรถเมล์เห็นว่าไม่ปลอดภัย จึงขับรถไปทางแยก กม.8 แต่ชายคนดังกล่าวได้ขี่รถตามประกบ จนเมื่อถึงทางเบี่ยงหน้าห้างฯ แฟชั่นไอส์แลนด์ (ถนนรามอินทราขาเข้า) ชายคนดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนยิงที่บริเวณคนขับ 1 นัด กระสุนถูกกระจกมองข้างด้านขวาแตกเสียหาย จากนั้นได้ขี่รถหนีไปทางหลักสี่


หลังเกิดเหตุคนขับรถเมล์ได้แจ้งความที่ สน.บางชัน และชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเข้ามอบตัว เป็นตำรวจสังกัดหนึ่งในกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยผู้ก่อเหตุได้นำปืนขนาด .22 ที่ใช้ก่อเหตุมามอบให้ด้วย ก่อนถูกแจ้งข้อหาฐานพยายามฆ่าผู้อื่น, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยในชั้นสอบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว เพราะเข้ามามอบตัวและไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกระแสข่าวที่อ้างว่าตำรวจได้นัดคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยกับผู้ก่อเหตุ และมีการจ่ายเงินค่าสินไหมนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะพนักงานสอบสวนกำลังนัดหมายคนขับรถเมล์มาให้ข้อมูลทางคดี และทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ได้พบหน้ากัน

ทั้งนี้ มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนจะรายงานไปยังต้นสังกัดของผู้ก่อเหตุว่ามีการกระทำความผิดทางอาญา และต้นสังกัดจะเป็นผู้พิจารณาโทษทางวินัยต่อไป โดยโทษสูงสุดคือ ไล่ออกจากราชการ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่