ทำเนียบฯ 30 พ.ย.- รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ครม.ไฟเขียว แก้ไข พ.ร.บ.กบข. เพิ่มความคล่องตัว รับโอนเงินจากกองทุนอื่น เปิดทางสมาชิกเลือกแผนลงทุนของตัวเอง
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ครม.เห็นชอบร่าง พระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่อความคล่องตัว และสอดคล้องกับสภาวะการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ซึ่งมีสาระสำคัญ อาทิ
- กำหนดให้กองทุน กบข. สามารถรับโอนเงินของผู้ที่เคยเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนอื่นที่จัดขึ้นตามกฎหมายและมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหลักประกันในกรณีออกจากงานหรือชราภาพมายังกองทุน กบข. ได้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาเข้ารับราชการสามารถเริ่มสะสมเงินกับ กบข. และได้รับผลประโยชน์ตอบแทนอย่างต่อเนื่อง
- แก้ไขเพิ่มเติมอัตราการส่งเงินสะสมของสมาชิก โดยให้ส่งได้ไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินเดือน (จากเดิมไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินเดือน)
- แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารเงินของสมาชิกที่สมาชิกภาพสิ้นสุดลง แบ่งเป็น 2 กรณี คือ (1)กรณีที่สมาชิกสิ้นสุดสมาชิกภาพและยังไม่ขอรับเงินที่ตนมีสิทธิได้รับคืนหรือขอทยอยรับเงินคืน สมาชิกมีสิทธิเลือกแผนการลงทุนที่ กบข. จัดให้ เพื่อให้ กบข. บริหารเงินนั้นต่อไปได้ (2) กรณีที่ กบข. บริหารเงินของสมาชิกต่อไป และต่อมาสมาชิกผู้นั้นเสียชีวิตและผู้มีสิทธิรับมรดกยังไม่ยื่นคำขอรับเงิน ให้ กบข. บริหารเงินนั้นต่อไปได้ตามแผนการลงทุนที่สมาชิกได้เลือกไว้ จนกว่าทายาทจะยื่นคำขอรับเงิน
- แก้ไขเพิ่มเติมให้ กบข. จัดแผนการลงทุนที่หลากหลาย โดยให้สมาชิกมีสิทธิเลือกแผนการลงทุนได้ ซึ่งแต่ละแผนอาจลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงแตกต่างกันได้ ประกอบด้วยหลักทรัพย์ 4 ประเภท ได้แก่ 1)เงินฝากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือธนาคารรัฐวิสาหกิจ หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารรัฐวิสาหกิจเป็นผู้ออก 2)พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตร ธปท. 3)ตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน เงินต้นและดอกเบี้ย และ4) ตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณเป็นผู้ออก
รองโฆษกฯ รัชดา กล่าวด้วยว่า ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมให้สมาชิก กบข. สามารถนำเงินสะสมเข้ากองทุนได้มากขึ้น รวมทั้งเปิดโอกาสให้สมาชิกสามารถเลือกแผนการลงทุนสำหรับเงินของ กบข. ได้หลากหลาย ซึ่งจะเป็นการสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นให้กับสมาชิกและเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเองในยามเกษียณอายุราชการได้.-สำนักข่าวไทย