โซล 24 พ.ย.- เกาหลีใต้เผยว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดล่าสุดในกรุงโซล มีต้นตอมาจากลัทธิหนึ่งที่สาวกไม่ยอมฉีดวัคซีน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติสูงสุด
เจ้าหน้าที่เมืองชอนอัน ทางใต้ของกรุงโซลเผยว่า เมืองนี้มีประชากรเพียง 427 คน และมีผู้เกี่ยวข้องกับโบสถ์แห่งหนึ่งอย่างน้อย 241 คนที่มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวก ในจำนวนนี้มีเพียง 17 คนที่ฉีดวัคซีนแล้ว คนในชุมชนทางศาสนาแห่งนี้ไม่ได้ฉีดวัคซีนมากถึงร้อยละ 90 ส่วนใหญ่มีความเป็นอยู่ใกล้ชิดกัน และหลายคนเป็นผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป เจ้าหน้าที่เชื่อว่า โบสถ์แห่งนี้มีความเชื่อต่อต้านรัฐบาล ทำให้สาวกไม่ไปฉีดวัคซีน ทางการได้สั่งล็อกดาวน์เมืองแล้ว ด้านสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีคาดว่า การระบาดครั้งนี้กระจายในวงกว้าง ขณะนี้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปที่แน่ชัดว่า เหตุใดคนจำนวนมากในชุมชนนี้จึงยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
หน่วยงานวิชาการด้านลัทธิเผยว่า โบสถ์ดังกล่าวตั้งขึ้นช่วงต้นคริสต์ทศวรรษหลังปี 1990 และมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากคนในชุมชนอยู่ได้ด้วยตัวเอง ทางการไม่ได้ขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการให้เป็นลัทธิ แต่พิธีกรรมที่บาทหลวงใช้มือกดลูกตาสาวกเพื่อกำจัดความปรารถนาทางโลก ถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง ไม่เป็นไปตามพระคัมภีร์ไบเบิล และเป็นสิ่งต้องห้ามของคริสตชนเกาหลี บาทหลวงรายนี้มีมารดาที่เป็นผู้มีอิทธิพล ซึ่งถูกขับออกจากชุมชนชาวคริสต์ช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1990 เพราะทำพิธีกรรมดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย