กรุงเทพฯ 22 พ.ย.-กระทรวงสาธารณสุข ใช้หลักการ VUCA ฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม ป้องกันตนเองขั้นสูงสุด สร้างพื้นที่ปลอดการแพร่เชื้อ และตรวจคัดกรองด้วย ATK ช่วยให้เปิดประเทศอย่างปลอดภัยห่างไกลโควิด
วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2564) ที่โรงแรมท็อปแลนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดพิษณุโลก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประเทศและการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ภาคเหนือ เพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมระดมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นำไปพัฒนาแผนปฏิบัติการฯ ของแต่ละจังหวัดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ โดยมีนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข คณะผู้บริหาร สธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมทั้ง Onsite และ Online รวม 400 คน อาทิ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน
นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขดำเนินงานภายใต้ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี จัดหาวัคซีนให้ประชาชนทุกคนอย่างเพียงพอ แต่พบว่ายังมีบางคนที่ไม่ประสงค์จะฉีดวัคซีน ซึ่งต้องเร่งทำความเข้าใจโดยเร็ว เพราะการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุม เมื่อติดเชื้อจะช่วยให้สามารถควบคุมดูแลได้ ทั้งนี้ หลังจากการเปิดประเทศ ทุกหน่วยงานยังต้องควบคุมการระบาดให้ดี พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่น เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้
ด้านนายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ภายหลังจากการเปิดประเทศ แนวโน้มผู้ติดเชื้ออาการหนักและผู้เสียชีวิตลดลง ส่วนผู้ที่เดินทางเข้าประเทศพบอัตราการติดเชื้อต่ำ และยังไม่พบการแพร่เชื้อ อย่างไรก็ตาม ยังต้องดำเนินงานภายใต้หลัก VUCA ได้แก่ ภาครัฐฉีด Vaccine ให้ครอบคลุมประชากรในประเทศ 70% หรือ 100 ล้านโดส ประชาชนใช้มาตรการ Universal Prevention ป้องกันตนเองสูงสุดกับทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อลดการติดเชื้อ ลดการระบาด สถานบริการ/สถานที่ต่างๆ ใช้มาตรการ Covid-free Setting สร้างพื้นที่ปลอดภัยจากเชื้อโควิด และใช้ ATK ตรวจคัดกรองในชุมชน สถานที่เสี่ยง ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะจัดสัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีน 27 พฤศจิกายน ถึง 5 ธันวาคม 2564 นี้ เพื่อเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และขยายไปถึงกลุ่มแรงงานต่างด้าว ซึ่งจะช่วยให้เราเปิดประเทศได้อย่างปลอดภัย ทุกคนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยวิถี New normal .-สำนักข่าวไทย