“อ.ธรณ์” อธิบายน้ำท่วมใต้ เหตุฝนตกแบบ Extreme Weather

29 พ.ย. – “อ.ธรณ์” อธิบายน้ำท่วมใต้ เหตุฝนตกแบบ Extreme Weather จากโลกร้อนทำน้ำในทะเลระเหยมากขึ้น เมฆยุคโลกร้อนเต็มไปด้วยน้ำ ปริมาณฝนจึงมากผิดปกติ


ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม โพสต์เฟซบุ๊ก อธิบายน้ำท่วมภาคใต้ที่เกิดขึ้นเวลานี้ โดยระบุว่า “โลกยิ่งร้อนเท่าไหร่ สภาพอากาศยิ่งแปรปรวน แม้ไม่มีพายุ แต่ฝนตกในภาคใต้เทียบเท่าปริมาณน้ำฝนจากไต้ฝุ่น “

กราฟระดับน้ำของแม่น้ำสายบุรี จ.ยะลา คงพออธิบายฝนตกแบบ extreme weather ให้เข้าใจได้ กราฟของ สสน. แสดงระดับน้ำตลอดเดือนพฤศจิกายน จนถึงวันนี้ จะเห็นว่าสถานการณ์ปกติมาตลอด จนถึง 09.00 น. วันอังคาร (26 พ.ย.) น้ำยังสูงแค่ 12 เมตรเศษ ต่ำกว่าตลิ่งอีกเยอะ แต่เมื่อฝนตกไม่ลืมหูลืมตา ปริมาณน้ำฝนสะสมหลายร้อยมิลลิเมตร ไหลจากทุกทิศมารวมกัน น้ำเพิ่มขึ้นฉับพลัน ใช้เวลาเพียง 17 ชั่วโมง น้ำล้นตลิ่ง (04.00 น. 27 พ.ย.)


จากนั้นน้ำยังสูงต่อเนื่อง จนถึง 08.00 น. เช้าวันพฤหัส (28 พ.ย.) น้ำล้นตลิ่ง 2.75 เมตร ที่น่าเป็นห่วงคือฝนยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด อย่างน้อยอีก 3-4 วัน ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นได้อีก นั่นคือความน่ากลัวของสภาพภูมิอากาศสุดขั้ว Extreme Weather ที่ไทยกำลังเผชิญ ทั้งปีนี้เราโดนตั้งแต่เหนือสุด (แม่สาย) จนถึงใต้สุด (ยะลา) ฝนตกภาคใต้ในช่วงนี้เป็นประจำทุกปี แต่โลกร้อนทำให้น้ำในทะเลระเหยมากขึ้น อากาศยิ่งร้อนเพิ่มทุก 1 องศาฯ จุไอน้ำเพิ่ม 7% เมฆยุคโลกร้อนจึงเต็มไปด้วยน้ำ ฝนตกในช่วงเวลาเท่าๆ เดิม แต่ปริมาณน้ำจากฟ้ามากกว่าเดิม เราจะเห็นข่าวว่าปริมาณน้ำฝนสะสมหลายแห่งเกิน 300 มม. เยอะมากจนผิดปกติ

มองไปข้างหน้า มีหลายเรื่องน่าห่วงในยุคโลกร้อน เช่น ฝนในลักษณะนี้จะเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ คำว่าฝนหนักในรอบ 30-50 ปี จะกลายเป็นฝนปกติเจอกันแทบทุกปี โดยเฉพาะเมืองไทยที่อยู่ในเขตเจอฝนโลกร้อนหนักขึ้น (IPCC) และ ไทยติด TOP10 ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโลกร้อนรุนแรงสุดในเรื่องฝน/น้ำท่วม ตั้งแต่แม่สายจนถึงยะลา คำว่า “ไม่เคยพบเคยเห็น” เป็นคำปกติไปแล้วในยุคโลกร้อน ยังมีอีกหลายอย่างที่เราคาดไม่ถึง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]