สหรัฐ 25 ม.ค.-ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ถูกกลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประนามอย่างหนัก หลังเขาใช้อำนาจประธานาธิบดีลงนามในคำสั่งรื้อฟื้นโครงการท่อส่งน้ำมัน “คีย์สโตน เอ็กซ์ แอล และดาโกต้า แอ็กเซส” อีกครั้ง หลังโครงการดังกล่าวต้องถูกระงับไป หลังถูกคนในพื้นที่ต่อต้านอย่างหนัก เพราะห่วงกังวลในเรื่องสิ่งแวดล้อม
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งเดินหน้าโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน “คีย์สโตน เอ็กซ์ แอล” ที่เชื่อมต่อจากเมือง ฮาร์ดิส ตี ใน รัฐแอลเบอร์ตา ที่อยู่ทางตะวันตกของแคนาดา ผ่านรัฐมอนแทนา และรัฐเนแบรสกา ที่อยู่ทางตอนกลางของสหรัฐ ก่อนออกสู่อ่าวเม็กซิโก ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศความยาว รวมกันราว 1,900 กิโลเมตร
โดยโครงการดังกล่าว ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสในสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช จากพรรครีพับลิกันเมื่อปี 2553 แต่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา จากพรรคเดโมแครต ใช้อำนาจวีโต้คัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าว เมื่อปี 2558 นอกจากนี้ผู้นำใหม่ของสหรัฐ ยังใช้อำนาจสูงสุดของประธานาธิบดีลงนามในคำสั่งให้เดินหน้าโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน “ดาโกต้า-แอ็กเซส” ความยาวราว 1,825 กิโลเมตร ทอดยาวผ่านแหล่งน้ำมัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ คือรัฐนอร์ทดาโคตา เซาท์ดาโคตา ไอโอวา และอิลลินอยส์
โครงการนี้เป็นข้อพิพาทยืดเยื้อระหว่างบริษัท เอ็นเนอร์จี ทรานส์เฟอร์ส์ กับกลุ่มชนพื้นเมืองในพื้นที่ นำโดยชาวเผ่าซูส์ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐและนายโอบามา สั่งยุติโครงการไปเมื่อปีที่แล้ว หลังก่อสร้างมาได้ช่วงหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2557 ทั้งนี้แม้ทรัมป์ยืนยันว่าการเดินหน้าทั้ง 2 โครงการนี้ ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของเงื่อนไขและการเจรจาใหม่เท่านั้น แต่เขาก็ยังถูกกลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประนามอย่างหนัก รวมถึงชาวเผ่าซูส์ ซึ่งประกาศเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายกับรัฐบาลของนายทรัมป์ด้วย
ขณะที่นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แห่งแคนาดา สนับสนุนโครงการ คีย์สโตน เอ็กซ์ แอล อย่างมาก และยินดี ที่สหรัฐรื้อฟื้นโครงการนี้ใหม่ เนื่องจากโครงการดังกล่าวรับผิดชอบและดำเนินงานโดยบริษัททรานส์แคนาดา หนึ่งในบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ในภูมิภาคอเมริกาเหนือของแคนาดา การรื้อฟื้นโครงการนี้ใหม่ จะช่วยสร้างงานให้ชาวแคนาดาจำนวนมาก
มีรายงานล่าสุดว่า นายทรัมป์ยังเตรียมลงนามใช้อำนาจสูงสุดของประธานาธิดีเช่นกัน ห้ามผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่เดินทางเข้าสหรัฐเป็นการชั่วคราว และงดออกวีซ่าให้พลเมืองซีเรียกับอีก 6 ประเทศ ในตะวันออกกลางและแอฟริกา โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับพลเมืองประเทศที่สหรัฐจะงดออกวีซ่าให้ได้แก่ ซีเรีย อิรัก อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน และเยเมน ทรัมป์กล่าวว่าว่า วันพุธวันนี้จะเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ ในด้านความมั่นคงของชาติและสหรัฐ จะเริ่มต้นสร้างกำแพงกั้นที่พรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโกด้วย.-สำนักข่าวไทย