กรีนเบย์, 1 พ.ย. – นายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เดินหน้าหาเสียงในรัฐสมรภูมิ หรือ สวิง สเตท ก่อนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 5 พฤศจิกายน ไม่ถึงสัปดาห์
ในขณะนี้เหลืออีก 5 วันก่อนถึงวันชี้ชะตาเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายน สองผู้สมัครต่างมุ่งเน้นหาเสียงในรัฐสมรภูมิ หรือสวิง สเตท ที่ยังเหลืออยู่ โดยเมื่อวานนี้รองประธานาธิบดีแฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ไปหาเสียงที่เมืองกรีนเบย์ รัฐวิสคอนซิน กล่าวหา อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน กรณีที่ปราศรัยต่อที่หาเสียงในรัฐวิสคอนซินว่า เขาจะปกป้องผู้หญิงในฐานะประธานาธิบดี ไม่ว่าพวกเธอจะชอบหรือไม่ก็ตาม โดยจะปกป้องพวกเธอจากผู้อพยพที่เข้ามา จะปกป้องพวกเธอจากประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการโจมตีเราด้วยขีปนาวุธและสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งนางแฮร์ริส กล่าวกับนักข่าวว่า เธอรู้สึกว่า ถ้อยคำที่ว่า ‘ชอบหรือไม่ก็ตาม’ เป็นการล่วงละเมิด และคิดว่า มันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจมากสำหรับผู้หญิง ที่นายทรัมป์แสดงความไม่เข้าใจถึงสิทธิและความสามารถในการตัดสินใจเกี่ยวกับชีวิตและร่างกายของตัวเอง
ส่วนผู้สนับสนุนของนายทรัมป์ที่ไปฟังคำปราศรัยของเขาในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ปฏิเสธถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ที่กล่าวถึงพวกเขาว่าเป็นขยะ โดยยืนยันว่า พวกเขาไม่ใช่ขยะแต่เป็นคนอเมริกันเหมือนกับทุกคน ตอบโต้คำกล่าวของของนายไบเดนกับกลุ่มชาวฮิสแปนิกเมื่อวันอังคารว่า ขยะสิ่งเดียวที่กำลังลอยอยู่ คือผู้สนับสนุนนายทรัมป์และตัวนายทรัมป์ ถ้อยคำรุนแรงของนายไบเดน เกิดขึ้นหลังจากนักแสดงตลก โทนี ฮินช์คลิปป์ เรียกรัฐเปอร์โตริโก ดินแดนส่วนหนึ่งของสหรัฐว่า ‘เกาะขยะลอยน้ำ’ ระหว่างการหาเสียงที่เมดิสัน สแควร์ การ์เดน ในนครนิวยอร์ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ ทั้งนางแฮร์ริสและนายทรัมป์เดินสายหาเสียงในหลายรัฐสวิง สเตท นางแฮร์ริสไปที่ฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนาตั้งแต่ตอนเที่ยง จากนั้นจะไปยังเมืองรีโน รัฐเนวาดา และจะปิดท้ายที่เมืองลาสเวกัสในช่วงค่ำ ส่วนนายทรัมป์อยู่ที่รัฐนิวเม็กซิโกตั้งแต่ช่วงบ่าย จากนั้นจะไปที่เฮนเดอร์สัน รัฐเนวาดาช่วงเย็น ปิดท้ายเมืองเกลนเดล รัฐแอริโซนา
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการการเลือกตั้งของมหาวิทยาลัยฟลอริดา ของสหรัฐฯ พบว่า มีชาวอเมริกันผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 61.9 ล้านคน ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ล่วงหน้าก่อนวันเลือกตั้งจริงในวันที่ 5 พฤศจิกายน ทั้งการเดินทางไปลงคะแนนเสียงด้วยตนเอง และลงคะแนนทางไปรษณีย์ ถือเป็นจำนวนการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ามากเป็นประวัติการณ์ หลายรัฐสมรภูมิสร้างสถิติใหม่ของการมีผู้ออกไปลงคะแนนเสียงล่วงหน้ามากเป็นประวัติการณ์เช่นกัน โดยในการลงคะแนนเลือกหน้าของการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พบว่านายไบเดนได้คะแนนเสียงมากกว่านายทรัมป์ จนช่วยให้นายไบเดนคว้าชัยชนะเข้าทำเนียบขาวได้สำเร็จ.-815.-สำนักช่าวไทย