กลาสโกว์ 12 พ.ย. – ร่างข้อตกลงฉบับใหม่ที่เขียนขึ้นในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ในวันนี้กดดันให้ประเทศต่าง ๆ ลงมือมากขึ้นในการวางแผนต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน แต่ยังคงมีความก้ำกึ่งระหว่างประเทศกำลังพัฒนาและประเทศร่ำรวย
สำนักข่าวรอยเตอร์สตั้งข้อสังเกตว่า แม้ร่างข้อตกลงฉบับใหม่ยังคงระบุถึงความต้องการหลักของประเทศต่าง ๆ ในการให้คำมั่นสัญญาด้านสภาพอากาศที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในปีหน้า แต่กลับใช้ถ้อยคำที่เบากว่าร่างข้อตกลงฉบับเดิมที่ขอให้ประเทศต่าง ๆ เลิกใช้น้ำมันเชื้อเพลงฟอสซิลอย่างค่อยเป็นค่อยไป และพยายามสร้างสมดุลเพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพภูมิอากาศและประเทศขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่ต้องพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิล
นอกจากนี้ แม้ประเทศยากจนจะเห็นด้วยกับการให้ประเทศต่าง ๆ ให้คำมั่นสัญญาเพื่อเพิ่มเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศในปีหน้า และต้องการให้ลงมือมากขึ้นเพื่อรับมือกับภัยน้ำท่วมและไฟป่าที่รุนแรง รวมถึงระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ร่างข้อตกลงฉบับใหม่ก็ใช้ถ้อยคำที่เบากว่าร่างฉบับเดิมและล้มเหลวในเรื่องการทบทวนเป้าหมายประจำปีด้านสภาพภูมิอากาศที่ประเทศกำลังพัฒนาได้ผลักดันให้เกิดขึ้น
ร่างข้อตกลงฉบับใหม่ยังระบุว่า การยกระดับคำมั่นสัญญาของแต่ละประเทศควรคำนึงถึงสถานการณ์ที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ ซึ่งหมายถึงความแตกต่างระหว่างประเทศร่ำรวยและประเทศยากจน สำนักข่าวรอยเตอร์สตั้งข้อสังเกตว่า การใช้ถ้อยคำดังกล่าวถือเป็นการปลอบใจประเทศกำลังพัฒนาที่อ้างว่าไม่ยุติธรรมที่จะให้พวกเขาเลิกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิลและลดการปล่อยมลพิษในระดับเท่ากับประเทศร่ำรวย ซึ่งปล่อยมลพิษมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกและมีความรับผิดชอบสูงกว่าต่อปัญหาสภาพภูมิอากาศ.-สำนักข่าวไทย