กรุงเทพฯ 6 พ.ย.-“จุรินทร์” ขอบคุณผลโพลทุกสำนัก ชูนั่งนายกฯ มองเป็นเรื่องปกติทางการเมือง คะแนนมากน้อย แล้วแต่ช่วงเวลา แต่เป็นกระจกสะท้อนการทำงาน พร้อมย้ำ กทม. เสียงดี มีว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ แล้ว รอเปิดตัว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันมีความพร้อมในการส่งตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทั้งตัวผู้สมัคร นโยบาย ทีมงาน และลงพื้นที่ร่วมกันมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนกรณีว่าที่ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ไปมีรายชื่อจะเป็นผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐนั้น ไม่ขอพูดถึงพรรคการเมืองอื่น แต่ยืนยันพรรคประชาธิปัตย์มีตัวผู้สมัครแล้ว เพียงแต่รอระยะเวลาที่เหมาะสมประกาศเป็นทางการ ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับสัญญาณการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อใด พรรคก็พร้อม
ส่วนผลโพล มสธ. ที่ได้รับความนิยมจากคนกรุง อยากให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด นายจุรินทร์ กล่าวขอบคุณทุกโพล ซึ่งเคยพูดกับผู้สื่อข่าวแล้วว่า ผลโพลก็มีทั้งคะแนนนิยมมากบ้าง น้อยบ้าง เป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในช่วงเวลาหนึ่ง ด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง และทุกผลโพล ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ก็เป็นกระจกสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่ต้องรับฟังในฐานะนักการเมือง ว่าอะไรที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขและเดินหน้าต่อไป ซึ่งสิ่งที่ทำต้องสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และถูกต้อง โดยที่ผ่านมา กทม. พรรคไม่ได้ ส.ส. แม้แต่คนเดียว แต่จากการทำงานหนักของตนและพรรคประชาธิปัตย์ 2 ปี การตอบรับจากประชาชนดีขึ้น ดังนั้น ผลโพลที่ออกมา ช่วยตอกย้ำสิ่งที่พรรคทำไม่สูญเปล่า ทำให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ส.ก. มีกำลังใจในการลงพื้นที่ และวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.) ตนก็จะลงพื้นที่เขตหลักสี่ กับ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ว่าที่ผู้สมัครเขตหลักสี่
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงการเตรียมผู้สมัครเพื่อชิงพื้นที่กลุ่มจังหวัดฝั่งอันดามัน หลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และตั้งเป้าปักธงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ในส่วนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนได้ลงพื้นที่หลายครั้ง รวมถึงจังหวัดพังงาด้วย หากรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขมีการบังคับใช้ก็จะส่งผลให้เพิ่มเขตเลือกตั้งเป็น 2 เขต โดยพรรคประชาธิปัตย์มีผู้แทนเดิมอยู่แล้ว 1 คน คือ นางกันตวรรณ ตันเถียร ที่ต้องเป็นฐานในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนผู้สมัครอีก 1 คน ยังไม่ได้พิจารณา แต่มีผู้แจ้งความจำนงมาแล้วหลายคน จึงต้องพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมต่อไป
อย่างไรก็ตาม จังหวัดพังงาเป็นพื้นที่เป้าหมายและคาดหวังว่าจะได้ผู้แทนทั้งจังหวัด เช่นเดียวกับจังหวัดกระบี่ ที่จะมีการเพิ่มเขตขึ้นมาอีก 1 เขต รวมเป็น 3 เขต จากเดิม 2 เขต ซึ่งมีผู้แทนเดิม 1 คนคือ นายสาคร เกี่ยวข้อง จึงต้องหาผู้สมัครใหม่อีก 2 เขต โดยขณะนี้มี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีบ้านเกิดอยู่กระบี่ แต่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ จึงคิดว่าจะพิจารณาให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในจังหวัดกระบี่ ส่วนอีก 1 คน คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งภาคใต้จะหารือกันอีกครั้ง อีกทั้งจังหวัดกระบี่ ถือว่าเป็นพื้นที่เป้าหมายของพรรคประชาธิปัตย์ และหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะปักธงในพื้นที่ฝั่งอันดามันได้ทั้งหมด ซึ่งตามกฎหมายใหม่จะมีการเพิ่มเขตเลือกตั้งขึ้นมาอีก 4 เขต.-สำนักข่าวไทย