วอชิงตัน 29 ม.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอ้างว่า นโยบายจำกัดคนเข้าเมืองดำเนินไปได้ด้วยดี สวนทางกับบรรยากาศตามท่าอากาศยานหลายแห่งในสหรัฐที่มีผู้ประท้วงจำนวนมาก
ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า คำสั่งฝ่ายบริหารที่เขาลงนามไปเมื่อวันศุกร์ดำเนินไปด้วยดี เห็นได้จากท่าอากาศยานต่าง ๆ ที่ไม่มีผู้เดินทางมาจากประเทศที่อยู่ในคำสั่ง เขาจะเพิ่มการคัดกรองให้ถึงระดับสูงสุดตามที่ควรจะมาใช้ในประเทศนี้มานานแล้ว ผู้นำสหรัฐได้ลงนามคำสั่งระงับโครงการรับผู้อพยพอย่างน้อย 120 วัน งดตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (วีซา) ให้คนจากอิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรียและเยเมนอย่างน้อย 90 วัน และห้ามผู้อพยพชาวซีเรียเข้าประเทศอย่างไม่มีกำหนด
ขณะเดียวกันกลุ่มต่าง ๆ ชุมนุมประท้วงหน้าท่าอากาศยานหลายแห่งทั่วสหรัฐที่มีชาวต่างชาติถูกกักตัวไม่ให้เข้าสหรัฐทันทีที่ทรัมป์ลงนามในคำสั่ง ขณะที่กลุ่มสิทธิพากันยื่นฟ้องร้องคำสั่งดังกล่าวเป็นคดีแรกเมื่อชายอิรัก 2 คนถูกกักตัวที่ท่าอากาศยานจอห์น เอฟ เคนเนดีเมื่อคืนวันศุกร์ อาจารย์ด้านกฎหมายมหาวิทยาลัยเนวาดาลาสเวกัสที่เชี่ยวชาญด้านคนเข้าเมืองยอมรับว่า ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าผลการต่อสู้ทางกฎหมายจะเป็นเช่นใด และอาจต้องไปจบที่ศาลฎีกา ซึ่งตัดสินเรื่องคนเข้าเมืองครั้งหลังสุดเมื่อรัฐบาลออกกฎหมายห้ามครจีนเข้าประเทศเมื่อปี 2425
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวแถลงว่า ผู้ถือกรีนการ์ดหรือบัตรประจำตัวผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรอย่างถูกกฎหมายในสหรัฐต้องไปขอเอกสารจากสถานกงสุลสหรัฐในต่างประเทศก่อนเดินทางกลับเข้าสหรัฐ เช่นเดียวกับผู้ถือกรีนการ์ดที่จะเดินทางไปต่างประเทศต้องไปขอเอกสารจากเจ้าหน้าที่กงสุลเช่นกัน ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า คนจากประเทศมุสลิม 7 ประเทศที่อยู่ในคำสั่งฝ่ายบริหารไม่สามารถเข้าสหรัฐได้ ยกเว้นผู้มีสัญชาติอเมริกันด้วย.-สำนักข่าวไทย