เวลลิงตัน 12 มิ.ย.- พรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของนิวซีแลนด์ประกาศว่า หากชนะเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกันยายนนี้จะลดจำนวนคนเข้าเมืองลงครึ่งหนึ่ง โดยเน้นที่นักศึกษาต่างชาติเป็นกลุ่มหลัก
นายแอนดรูว์ ลิตเติล หัวหน้าพรรคแรงงานกล่าวว่า ถึงเวลาที่จะต้องเว้นวรรคนโยบายคนเข้าเมืองที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ปีละ 70,000 คนในช่วงหลายปีมานี้ หากพรรคของเขาชนะเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 23 กันยายนจะลดจำนวนคนเข้าเมืองให้ได้ปีละ 30,000 คน ด้วยการลดวีซานักเรียนลง 22,000 ราย เพราะนิวซีแลนด์ซึ่งมีประชากร 4.5 ล้านคนไม่สามารถรับมือจำนวนคนเข้าเมืองในระดับปัจจุบันที่ก่อให้เกิดทั้งวิกฤตด้านที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล การศึกษาและการจราจร เขาจะปิดธุรกิจการศึกษานานาชาติเพราะถูกชาวต่างชาติใช้เป็นทางลัดในการขอสิทธิในการพำนัก จะจำกัดการออกวีซาการศึกษาขั้นต่ำกว่าปริญญาตรี จะเข้มงวดการออกวีซาทำงานให้แก่นักศึกษาต่างชาติ และจะเข้มงวดการสมัครงานของผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาไม่ให้ทำงานทักษะต่ำที่ไม่เกี่ยวข้องกับสาขาที่จบมา
ด้านนายกรัฐมนตรีบิล อิงลิช หัวหน้าพรรคเนชันแนลวิจารณ์ว่า นโยบายของพรรคแรงงานจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจนิวซีแลนด์ที่เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 3 ต่อปี การลดจำนวนคนเข้าเมืองเท่ากับลดจำนวนคนทำงาน ขณะที่ธุรกิจการศึกษานานาชาติจ้างงานคน 33,000 คน สร้างรายได้เข้าประเทศ 4,500 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ราว 110,236 ล้านบาท) มากเป็นอันดับ 4 ของธุรกิจทั้งหมด และเป็นส่วนสำคัญของการสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจในยามที่การส่งออกผลิตภัณฑ์นมตกต่ำ อนึ่ง ผลการหยั่งเสียงขณะนี้ชี้พรรคเนชันแนลนำพรรคแรงงานอยู่ร้อยละ 49 ต่อ 30 ในการเลือกตั้งเดือนกันยายนนี้.- สำนักข่าวไทย