ทำเนียบรัฐบาล 2 พ.ย.-โฆษกรัฐบาลปัดรัฐไฟเขียว ‘คิงส์เกต’ เปิดเหมืองทองใหม่ แลกเลื่อนแถลงคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ย้ำคณะกรรมการระงับข้อพิพาทฯ ยึดประโยชน์สูงสุดของประเทศ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุกรณีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด เจ้าของเหมืองอัคราเลื่อนการแถลงคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมใช้กฎหมายมาตรา 44 ที่ 72/2559 ของคสช.ระงับการทำเหมืองแร่ทองคำชาตรี จากเดิมวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมาเป็นวันที่ 31 มกราคม 2565 และเตรียมเปิดเหมืองทองคำชาตรี บริเวณรอยต่อของ จ.พิจิตร จ.พิษณุโลกและจ.เพชรบูรณ์ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังเจรจาแลกเปลี่ยนอะไรที่ไม่อยากให้ประชาชนรับทราบใช่หรือไม่ ว่า ขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับกระบวนการอนุญาโตตุลาการ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่สำคัญเป็นไปตามคำแนะนำของอนุญาโตตุลาการที่ต้องการให้ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่าย ซึ่งไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยจะแพ้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการ เพราะหากคณะกรรมการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด สามารถเจรจาจนได้ข้อยุติได้นั้น ย่อมจะเป็นผลดีมากกว่าการให้คณะอนุญาโตตุลาการออกคำชี้ขาด
“รัฐบาลชุดนี้จะรักษาประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง จะไม่ให้เกิดความเสียหายเหมือนกรณีทุจริตจำนำข้าวอย่างแน่นอน เพราะพล.อ.ประยุทธ์กำชับหนักแน่นว่าจะไม่ปล่อยให้เกิดการทุจริตใด ๆ ในรัฐบาลชุดนี้เด็ดขาด ทางที่ดีนพ.ชลน่านควรเรียกอดีตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยกลับมารับผิดชอบความผิดของตัวเองก่อนจะดีกว่า ถึงแม้จะอ้างว่าไม่ได้กระทำความผิดเอง แต่ก็ปล่อยให้รัฐมนตรีในรัฐบาลตัวเองทุจริต จนถูกศาลตัดสินจำคุกในที่สุด ขอให้เชื่อมั่นการทำหน้าที่ของคณะกรรมการระงับข้อพิพาทฯ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายหน่วยงาน ทั้งสำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งถือว่ามีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายอย่างมาก และดำเนินการด้วยความรอบคอบ โดยยึดถือประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นหลักภายใต้กรอบของกฎหมาย” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย