ร้องศาลวินิจฉัยกสทช.อนุญาตไทยคม 7,8ขัด รธน.หรือไม่

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 พ.ย.-“หมอวรงค์” ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกสทช.ออกใบอนุญาตดาวเทียมไทยคมดวง 7 และ 8 ขัดรธน.หรือไม่


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้พิจารณาว่าการที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) สมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี   เห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ออกใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมไทยคม ดวง 7 และดวง 8 ให้กับบริษัทไทยคมเป็นการกระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190 หรือไม่   หลังจากได้ยื่นคำร้องผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินครบ 60 วันแล้วแต่ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ   โดยน.พ.วรงค์ กล่าวว่า ได้นำหลักฐานพร้อมพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมไทยคม ดวง 7 และดวง 8 มายื่น เนื่องจากเห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐกระทำขัดรัฐธรรมนูญ ละเมิดสิทธิประชาชน

“รัฐธรรมนูญ ปี 50 และปี60 กำหนดให้การทำกิจการคลื่นความถี่หรือโทรคมนาคม ต้องทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่เจ้าหน้าที่กสทช.กลับออกใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมไทยคมดวงที่ 7 และ 8 ให้กับบริษัทไทยคม ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 305 (1) เพราะออกใบอนุญาตทับซ้อนกับสัมปทานที่ยังไม่หมดอายุ และการที่บริษัทไทยคมในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปเจรจากับฮ่องกง เป็นการเอาสิทธิในวงโคจรดาวเทียมของไทย ที่ถือว่าเป็นสมบัติของชาติ ไปเจรจาในลักษณะการแบ่งปันผลประโยชน์ เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 60 มาตรา 190” นพ.วรงค์ กล่าว  


นพ.วรงค์ กล่าวว่า พฤติการณ์ดังกล่าวยังละเมิดไปถึงดาวเทียมดวงที่ 4 ไอพีสตาร์ด้วย เพราะใช้สิทธิสมบัติชาติในการยิงดาวเทียมดวงที่ 4 โดยให้ประโยชน์คนไทยเพียงร้อยละ 6 แต่ไปหากินที่ต่างประเทศถึงร้อยละ 94 ทำให้ประชาชนเสียสิทธิ์ ทั้งนี้ การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถือว่ากระบวนการจบแล้ว ผลจะออกมาอย่างไรก็พร้อมยอมรับ หากศาลเห็นว่าการกระทำดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ จะทำให้การออกใบอนุญาตดาวเทียมไทยคมดวงที่ 7 และ 8 ขัดรัฐธรรมนูญไปด้วย ทำให้สิทธิการประกอบกิจการดาวเทียมทั้ง 2 ดวงกลับมาเป็นของไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง