สนพ. 30 ม.ค. – สนพ.เดินหน้าเสนอมาตรการชดเชยการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน หลังยอดใช้หลอดไฟ LED และเครื่องปรับอากาศที่มีค่า SEER เติบโตต่อเนื่อง ยอมรับเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเปลี่ยนยุคใน 5 ปีข้างหน้า
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ประชาชนเริ่มให้ความสำคัญการประหยัดพลังงาน ทำให้มีการคัดเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงานที่มีสติกเกอร์ของหน่วยงานรัฐติดไว้ เมื่อหลอดไฟ LED ประหยัดกว่าหลอดธรรมดาถึงร้อยละ 80 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จึงมียอดการใช้หลอด LED เติบโตร้อยละ 33 ในปี 2559 มีมูลค่าตลาด 4,960 ล้านบาท ขณะที่การใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่า SEER (อินเวอร์เตอร์แผงวงจรควบคุมมอเตอร์) มียอดเติบโตสูงขึ้นร้อยละ 59 มูลค่าตลาด 7,000 ล้านบาท เพราะทำให้ประหยัดพลังงาน
ทั้งนี้ การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีค่า SEER เริ่มแพร่กระจายจากแอร์ไปตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ทำให้ในช่วง 5 ปีข้างหน้าการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าจะเปลี่ยนไปสู่ยุคประหยัดพลังงาน จากทิศทางการใช้พลังงานไฟฟ้าเริ่มเติบโตเป็นเงาตามตัวของการขยายเมืองในต่างจังหวัด พลังงานไฟฟ้าจึงขยายตัวร้อยละ 1.2 ขณะที่น้ำมันขยายตัวร้อยละ 0.8 และไทยเป็นประเทศที่มีสังคมเมืองขยายตัวร้อยละ 20 หัวเมืองต่างจังหวัดเริ่มเติบโตขึ้น
สนพ.จึงเดินหน้าเสนอมาตรการชดเชยการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน หลังจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบหลักการไปแล้ว เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน ด้วยการนำตัวเลขก่อนเข้าโครงการและหลังเข้าโครงการมาคำนวณแล้วจ่ายชดเชยให้กับประชาชนผู้ร่วมโครงการ และยังร่วมกับ 15 พันธมิตรเอกชน เช่น โฮมโปร เดอะมอลล์กรุ๊บ ตั่งฮั่วเส็ง สยามแมคโคร ตลาดดอทคอม ให้ความรู้ลูกค้าเห็นความสำคัญของเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน
เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าพีคสูงต่อเนื่องทุกปี เช่น ปี 60 คาดว่าจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 หรือ 189,258 กิกะวัตต์-ชั่วโมง นับเป็นการขยายตัวสอดคล้องกับจีดีพีของประเทศร้อยละ 3-4 สนพ.จึงให้ความสำคัญกับการรณรงค์ประหยัดพลังงานอย่างมาก เพื่อไม่ให้ค่าพีคสูงถึง 31,365 เมกะวัตต์ตามที่คาดการณ์ไว้.-สำนักข่าวไทย