สิงคโปร์จะบริจาคเวชภัณฑ์ให้อาเซียนรับมือภาวะฉุกเฉินสาธารณสุข

สิงคโปร์ 26 ต.ค. – นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ ประกาศในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ในวันนี้ว่า สิงคโปร์จะบริจาคเวชภัณฑ์มูลค่า 7.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (261 ล้านบาท) ให้กองทุนสำรองระดับภูมิภาค เป็นการสนับสนุนความร่วมมือของอาเซียนเพื่อเตรียมรับมือภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในอนาคต


นายกรัฐมนตรีลีกล่าวในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 38 และ 39 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 26-28 ตุลาคมและมีสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ ของบรูไนเป็นประธานว่า อาเซียนจำเป็นต้องแก้ปัญหาการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด สิงคโปร์ได้บริจาควัคซีนให้แก่ประเทศต่าง ๆ ผ่านโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก และกำลังขยายบริการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตวัคซีนด้วยการตั้งโรงงานผลิตวัคซีนใหม่ 3 แห่ง เพื่อช่วยกระจายวัคซีนโควิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างรวดเร็วและเท่าเทียม

นายกรัฐมนตรีลียังเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียนกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้งเมื่อสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของแนวทางการใช้ชีวิตร่วมกับเชื้อโควิด โดยยกตัวอย่างโครงการเดินทางระหว่างประเทศของสิงคโปร์ที่อนุญาตให้นักเดินทางต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสไม่ต้องกักตัวเมื่อเดินทางถึงสิงคโปร์ ทั้งยังเห็นด้วยกับการนำกรอบแผนงานโครงการระเบียงท่องเที่ยวของอาเซียนที่เริ่มไว้เมื่อปีก่อนมาปรับใช้ รวมถึงการเดินหน้าแก้ปัญหาด้านดิจิทัลเพื่อให้สามารถเปิดการเดินทางระหว่างกันได้อย่างปลอดภัย เช่น การพัฒนาใบรับรองด้านสุขภาพแบบดิจิทัลเพื่อแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิดและการฉีดวัคซีนโควิดให้เป็นที่ยอมรับในระดับภูมิภาค


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีลียังเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเร่งกระบวนการให้สัตยาบันความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป (RCEP) ซึ่งเป็นข้อตกลงทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดของโลกและมีความเกี่ยวข้องกับประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ รวมถึงออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง