จาการ์ตา 1 ก.พ.- หน่วยงานวิชาการในอินโดนีเซียเตือนว่า สตรีอินโดนีเซียเริ่มมีบทบาทเรื่องความคิดสุดโต่งมากขึ้น บางคนถึงกับหาทางจะเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
รายงานของสถาบันเพื่อนโยบายการวิเคราะห์ความขัดแย้งในกรุงจาการ์ตาระบุว่า ปัญหานี้เป็นที่จับตามองมากขึ้นตั้งแต่ทางการจับกุมสตรีอินโดนีเซีย 2 คนในเดือนธันวาคมข้อหาวางแผนระเบิดฆ่าตัวตายในประเทศ ที่ผ่านมามีชาวอินโดนีเซียหลายคนไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในตะวันออกกลาง ประกาศตัวภักดีต่อกลุ่มไอเอส ก่อเหตุหรือวางแผนจะก่อเหตุในนามของกลุ่มไอเอส แต่การที่สตรีอินโดนีเซียอยากมีส่วนร่วมด้วยตนเองมากกว่าสนับสนุนสามีที่มีแนวคิดสุดโต่งกำลังเป็นภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ พวกเธอฝึกฝนการก่อเหตุร้ายแรงถึงตายไม่ต่างจากสตรีมุสลิมในประเทศอื่น เป็นผลจากสื่อสังคมออนไลน์ที่เปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโฆษณาชวนเชื่อและมีส่วนร่วมในกระดานสนทนาของกลุ่มสุดโต่ง รัฐบาลต้องเร่งค้นหาเครือข่ายของสตรีเหล่านี้ รวมทั้งสอบปากคำสตรีที่ถูกเนรเทศกลับมาจากตุรกีเพราะพยายามข้ามพรมแดนเข้าไปในซีเรียเพื่อหาทางหยุดยั้งเหตุร้าย
รายงานกล่าวถึงกรณีของสตรีอินโดนีเซีย 2 คนที่ถูกจับว่า ได้รับคำสั่งและการสนับสนุนจากทางการเงินจากนายบาห์รุน นาอิม ชาวอินโดนีเซียที่เป็นสาวกคนสำคัญของไอเอส เจ้าหน้าที่จับกุมสตรีคนแรกพร้อมสามีได้ก่อนที่ทั้งคู่จะก่อเหตุที่ทำเนียบประธานาธิบดี จากนั้นจึงจับกุมสตรีอีกคนที่จะก่อเหตุบนเกาะบาหลี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของอินโดนีเซีย ส่วนสตรีคนอื่น ๆ ที่ถูกจับมีทั้งคนที่ตั้งกลุ่มระดมเงินให้ไอเอส ช่วยทำระเบิด และเข้าเป็นนักรบให้กลุ่มติดอาวุธบนเกาะสุลาเวสี ทางตะวันออกของอินโดนีเซีย.- สำนักข่าวไทย