จับร้านเหล้าหน้า สตช. ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

กรุงเทพฯ 19 ต.ค. – ศาลพิพากษาปรับนักดื่มและร้านอาหารกึ่งผับในศูนย์การค้าย่านราชประสงค์ ลอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่จัดมาตรการเว้นระยะห่างและเปิดให้บริการเกินเวลา


กำลังตำรวจ สน.ปทุมวัน ทั้งในและนอกเครื่องแบบ เข้าตรวจสอบสถานบริการในห้างสรรพสินค้าท้องที่ สน.ปทุมวัน ซึ่งฝ่าฝืนจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเปิดให้ลูกค้าเข้าใช้บริการจำนวนมาก โดยไม่มีมาตรการเว้นระยะห่าง พบลูกค้าดื่มกินกันอย่างครึกครื้น มีการจำหน่ายเครื่องดื่ม ตรวจนับนักเที่ยวได้ทั้งหมด 93 คน เป็นชาย 29 คน และหญิง 64 คน เจ้าหน้าที่จึงต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิดเหล่านักเที่ยว

พันตำรวจเอกพันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน บอกว่า ก่อนเข้าจับกุมครั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาร้านนี้เคยได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่จัดที่นั่งเว้นระยะห่างให้ลูกค้า จึงให้ชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบ พบเป็นไปตามข้อร้องเรียนจริงๆ จึงว่ากล่าวตักเตือนให้ปรับปรุง ต่อมาวันอาทิตย์ ผู้อำนวยการเขตปทุมวันได้เข้าไปตักเตือนอีกครั้ง แต่ไร้ผล ทางร้านยังไม่ปฏิบัติตามที่ได้เคยตักเตือนไป ที่สำคัญคือร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังกล้าจะฝ่าฝืนอีก เมื่อคืนที่ผ่านมาจึงตัดสินใจนำกำลังเข้าจับกลุ่ม เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป


พลตำรวจตรีจีรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกตำรวจนครบาล กล่าวว่า ตำรวจ สน.ปทุมวัน เข้าจับกุมนักเที่ยวที่เข้าไปมั่วสุมดื่มกินในร้านแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบนักท่องเที่ยวชายหญิงชาวไทย 93 คน กำลังนั่งฟังดนตรีสดกว่า 30 โต๊ะ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วางอยู่บนโต๊ะ จึงยึดของกลาง เช่น ใบเสร็จ 103 ใบ ถังบรรจุเบียร์ เหยือกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และควบคุมตัวผู้จัดการร้านและผู้มาใช้บริการทุกคนภายในร้านดำเนินคดี

สำหรับร้านดังกล่าวลักลอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับลูกค้า โดยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ตำรวจปทุมวันไปว่ากล่าวตักเตือนมาแล้ว 1 ครั้ง กระทั่งเมื่อคืนทราบว่ายังมีการลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้มาใช้บริการอีก จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบและจับกุมดำเนินคดีผู้จัดการร้าน แจ้งข้อหาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.โรคติดต่อ และเปิดให้บริการร้านอาหารเกินระยะเวลาตามคำสั่งประกาศ กทม. ส่วนนักเที่ยวแจ้งข้อหามั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค และรวมกลุ่มกันมากกว่าห้าสิบคน ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

ด้านพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ที่ผ่านมาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้ตำรวจทั่วประเทศกวดขัน ตรวจสอบสถานบันเทิง สถานประกอบการ ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และขณะนี้ยังไม่อนุญาตให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พื้นที่ใดปล่อยปละละเลยถือว่ามีความผิดทางวินัย ซึ่งในกรณีของท้องที่ สน.ปทุมวัน ทราบว่ามีการแจ้งเตือนมาแล้วแต่ทางผู้ประกอบการยังฝ่าฝืน


เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ส่งฟ้องผู้ต้องหาต่ออัยการคดีศาลแขวงแล้วจำนวนหนึ่ง และอัยการยื่นฟ้องด้วยวาจาต่อศาล บรรยายพฤติการณ์ฝ่าฝืนข้อกำหนด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ศาลพิพากษาว่าผิดตามฟ้องให้ปรับคนละ 5,000 บาท รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง ปรับคนละ 2,500 บาท ส่วนพรุ่งนี้จะฟ้องผู้ต้องหาในส่วนที่เหลือให้ครบทุกคน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”