กรุงเทพฯ 18 ต.ค.-“ศักดิ์สยาม” เดินหน้าให้หน่วยงานในสังกัดบูรณาการความร่วมมือ ทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการบังคับใช้กฎหมายกับผู้หลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางของระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) นำร่องบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ซึ่งจะเริ่มเปิดบริการ 29 ต.ค.นี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายกับผู้หลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางของระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ระหว่าง กรมทางหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายและเชื่อมโยงข้อมูลผู้ใช้บริการระบบ M-Flow โดยมีผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ร่วมงาน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม มีนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางบนท้องถนน โดยเฉพาะบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษ ให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย จึงได้มอบหมายให้กรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ร่วมกันศึกษา พัฒนาระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้จัดเก็บค่าผ่านทาง ด้วยการใช้ระบบ Video Tolling ตรวจจับป้ายทะเบียน ทำให้รถสามารถขับผ่านด่านเก็บเงินได้ โดยไม่ต้องชะลอ ช่วยระบายรถบริเวณหน้าด่านได้เร็วกว่าเดิมถึง 5 เท่า หรือประมาณ 2,000 คัน/ช่อง/ชม. เป็นการบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่าน และยังช่วยให้ผู้ใช้ทางสามารถใช้ความเร็วต่อเนื่อง 120 กม./ชม. ได้ โดยได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม บูรณาการการทำงานร่วมกันให้เป็นรูปธรรมและเป็นมาตรฐานเดียวกัน (Single Platform System) ทำให้สามารถใช้กับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษได้ทุกเส้นทาง
สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง กรมทางหลวง กรมการขนส่งทางบก และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายและเชื่อมโยงข้อมูลผู้ใช้บริการระบบ M-Flow โดยมีขอบเขตการดำเนินงานร่วมกัน ได้แก่ การพัฒนาและปรับปรุงระบบชำระภาษีรถยนต์ประจำปีของกรมการขนส่งทางบก โดยการจัดเตรียมช่องทางในการตรวจสอบยอดค้างชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flow เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และปรับปรุงโปรแกรมชำระภาษีของกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้สามารถชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flow ที่ค้างชำระได้ การรับชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flow ที่กรมการขนส่งทางบก ในขั้นตอนการต่อภาษีรถประจำปี แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบกเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.กำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงและสะพาน พ.ศ. 2497 เพื่อให้สามารถรับชำระค่าธรรมเนียม ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flow ที่ค้างชำระ โดยกรมการขนส่งทางบก จะเป็นผู้เก็บรักษาและนำส่งเงินค่าธรรมเนียมผ่านทาง ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flow ให้กับกรมทางหลวงและการทางพิเศษแห่งประเทศไทย การบังคับใช้กฏหมายกับผู้ที่หลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางของระบบ M-Flow โดยหากมีผู้หลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง หรือผู้ที่ไม่เป็นสมาชิกแล้วฝ่าฝืนขับรถเข้าไปในช่องทาง M-Flow กรมทางหลวงและการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จะจัดส่งข้อมูลและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับการกระทำผิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดในกฎหมายต่อไป
ส่วนรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง จะเป็นการผ่านก่อนจ่ายทีหลัง โดยเจ้าของรถจะต้องลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกผ่านทาง www.mflowthai.com หรือ Mobile Application : Mflow หรือที่จุดบริการ เพื่อชำระค่าผ่านทางผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบิต การหักบัญชีธนาคาร และการตัดชำระผ่านระบบ Pre-Paid ที่สามารถเลือกชำระเป็นรายครั้งหรือตามรอบบิล ให้กับกรมทางหลวงและการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
โดยในช่วงแรก กรมทางหลวงได้ออกโปรโมชั่นใช้ฟรี 2 ครั้ง จำนวน 100,000 สิทธิ์ เพื่อเป็นการจูงใจผู้ใช้รถใช้ถนนให้มาทดลองใช้บริการ โดยจากจำนวนผู้ใช้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสาย 9 ในปัจจุบันที่มีผู้ใช้งานอยู่ประมาณ 300,000 เที่ยว/วัน กรมทางหลวงจึงตั้งเป้าว่าจะมีผู้สมัครเข้าทดลองใช้บริการในช่วงแรกประมาณ 100,000 ราย
สำหรับแผนการดำเนินงานติดตั้งระบบ M-Flow ในระยะแรก จะเริ่มดำเนินการนำร่องบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 บริเวณด่านทับช้าง 1 ด่านทับช้าง 2 ด่านธัญบุรี 1 และด่านธัญบุรี 2 และทางพิเศษฉลองรัช ที่บริเวณด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านสุขาภิบาล 5-2 โดยบริเวณด่านฯ จะกำหนดให้มีช่องทางวิ่งเฉพาะสำหรับระบบ M-Flow แยกออกจากช่องเก็บเงินสดและช่องเก็บเงินด้วยบัตรอัตโนมัติ (M-Pass/Easy Pass) ซึ่งจะยังคงเปิดให้ใช้งานได้เพียงบางส่วนควบคู่ไปกับช่องทางระบบ M-Flow เพื่อสร้างการเรียนรู้และความเข้าใจกับประชาชนผู้ใช้ทาง โดยกรมทางหลวงจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิก เพื่อร่วมทดลองใช้บริการและร่วมทดสอบการทำงานของระบบ M-Flow บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ซึ่งจะเปิดในวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ส่วนทางพิเศษฉลองรัช บริเวณด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านสุขาภิบาล 5-2 ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จะเปิดทดลองใช้บริการและร่วมทดสอบระบบเสมือนจริง (Soft Opening) ในช่วงเดือนมีนาคม 2565 โดยหลังจากเปิดให้ทดลองใช้เสมือนจริงบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 แล้ว กรมทางหลวงจะมีการประเมินผล ทั้งความเข้าใจในระบบ ความเสถียรของระบบ และพฤติกรรมของผู้ใช้ทาง เพื่อนำมาปรับปรุงก่อนเปิดให้บริการจริงต่อไป
โดยความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มศักยภาพในการให้บริการระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น M-Flow ให้สำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม และสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับการให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษ ให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางมีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตอบโจทย์การเดินทางในสังคมยุคดิจิทัลที่แข่งขันกันด้วยเวลา พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ก้าวต่อไปสู่ความมั่นคง.-สำนักข่าวไทย