ตั้งทีมโฆษก กอ.รมน.ชุดใหม่

กรุงเทพฯ 14 ต.ค. – กอ.รมน.จัดตั้งทีมโฆษกชุดใหม่ มุ่งประชาสัมพันธ์ข่าวสารความมั่นคง “ถูกต้อง ครบถ้วน รวดเร็ว ทันเหตุการณ์” โดย “พล.อ.สิทธิชัย” เป็นโฆษก กอ.รมน.


พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) ลงนามคำสั่งแต่งตั้งทีมโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างความมั่นคงสถาบันหลักของชาติ และความมั่นคงของรัฐในมิติต่างๆ รวมถึงเผยแพร่เจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน บนพื้นฐานของการให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ครบถ้วน รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ ในการนี้ได้แต่งตั้งให้ พล.อ.สิทธิชัย มากกุญชร เป็นโฆษก กอ.รมน. พร้อมด้วย พ.อ.วินธัย สุวารี และ พ.ท.หญิง นุชระวี แจ่มจำรัส ปฏิบัติหน้าที่รองโฆษก กอ.รมน. และผู้ช่วยโฆษก กอ.รมน. อีก 3 นาย ประกอบด้วย พ.ท.หญิง ปรีดิ์พัฒน์ กิจจาทร, ร.อ.หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล และ ร.อ.หญิง สวิส รังสรรค์สวัสดิ์


การแต่งตั้งทีมโฆษก กอ.รมน.ดังกล่าว เพื่อประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้แก่ประชาชน ถึงบทบาทและภารกิจของหน่วยงานภาครัฐ ในการพิทักษ์ ปกป้อง รักษาผืนแผ่นดินไทย รวมถึงการป้องกันแก้ไขปัญหาความมั่นคงของประเทศจากภัยคุกคาม ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งทีมโฆษก กอ.รมน.ชุดนี้ ประกอบด้วยผู้มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ด้านการประชาสัมพันธ์เป็นอย่างดี พร้อมเป็นกลไกหนึ่งในการเสริมการทำงานของภาครัฐให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ควบคู่การสร้างความรู้ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมในสังคม อันจะก่อให้เกิดความสงบสุขและความมั่นคงของสังคมไทยได้อย่างยั่งยืน  

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ หรือแจ้งข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ https://www.isoc.go.th เพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน. ISOC PR CENTER” และทวิตเตอร์บัญชี “ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน. @ISOC PR Center” หรือช่องทางสายด่วน 1374 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

วัดอรุณฯ เนืองแน่น นักท่องเที่ยวแห่ร่วมงานลอยกระทง

นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแน่นวัดอรุณฯ ร่วมงานประเพณีลอยกระทง 2567 “ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” มีน้องหมูเด้ง Thai Cuteness นำนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยสืบสานคุณค่าวัฒนธรรม นางสาวไทย(ดินสอสี) ชวนรำวงลอยกระทง 6 ภาษา ผลักดันเทศกาลไทยสู่ World Event หมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

ข่าวแนะนำ

ซูเปอร์มูน

ทั่วโลกแห่ชมซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายของปีนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนทั่วโลกมีโอกาสได้ชมดวงจันทร์ที่เรียกว่าซูเปอร์มูนซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้

หารือสีจิ้นผิง

นายกฯ หารือ “สี จิ้นผิง” ขยายความร่วมมือการค้า-ลงทุน

นายกรัฐมนตรี หารือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น พร้อมแลกเปลี่ยนการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนสองประเทศ พร้อมอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากปักกิ่งประดิษฐานท้องสนามหลวง