รัฐสภา 11 ก.ย.-“จาตุรนต์” เผยคณะกรรมาธิการวิสามัญชายแดนใต้ฯ เตรียมเชิญ กอ.รมน. มาชี้แจง-ให้ข้อมูล กรณีเจ้าหน้าที่เข้ายึดอุปกรณ์ผู้เข้าร่วมพาเหรด ในงานสืบสานประเพณี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังถูกกระแสวิจารณ์การปฏิบัติงาน
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ แถลงข่าว เรื่องข้อกังวลของคณะกรรมาธิการฯ ต่อการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ในการจัดงานสืบสานประเพณี อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ทหารในพื้นที่ได้เข้ายึดอุปกรณ์ของผู้เข้าร่วมขบวนพาเหรด อาทิ ธงปาเลสไตน์ และรูปของผู้นำทางศาสนา ส่งผลให้ประชาชนส่วนหนึ่งวิพากย์วิจารณ์การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ คณะกรรมาธิการฯ จึงได้นำเรื่องนี้มาหารือกันเนื่องจากวิตกกังวลว่าจะกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน อีกทั้ง ยังเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่สอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยเรื่องสิทธิพลเมือง สิทธิทางการเมือง รวมถึงไม่สอดคล้องกับท่าที หรือ นโยบายการต่างประเทศของรัฐบาลไทยต่อเวทีโลก โดยเฉพาะประเด็นที่ไทยสนับสนุนด้านมนุษยธรรมแก่ปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมยังมีข้อคิดเห็นที่แตกต่างกันอยู่บางประการ เพราะบางฝ่ายมองว่าเจ้าหน้าที่อาจจะทำไปตามความเข้าใจเรื่องข้อกฎหมาย
แต่ที่ประชุมเห็นตรงกันและสรุปว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะเร่งศึกษาพิจารณาว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร พร้อมแก้ไขป้องกันไม่ให้บานปลาย เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในหน่วยงานต่างๆ ฉะนั้นในสัปดาห์หน้ากรรมาธิการฯจะเชิญ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาและเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูล รวมทั้งเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการไป เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่สอดคล้องและตรงกัน จากนั้น คณะกรรมาธิการฯ ก็จะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปเสนอเป็นมาตรการ หน่วยงานของรัฐต่อไปในสภาผู้แทนราษฎร
ด้าน นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้ถือเป็นจุดแข็งของกรรมาธิการฯ เพราะแม้จะมีความเห็นที่แตกต่างกันบ้าง แต่ยังสามารถดำเนินภารกิจร่วมกันได้ ด้วยเหตุนี้ จึงได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ช่วยกันประเมินสถานการณ์ และทบทวนแนวทางปฏิบัติต่างๆให้ดีขึ้น.-312.-สำนักข่าวไทย