เร่งตามจับกุมกลุ่มถ่ายคลิปถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน

เชียงใหม่ 3 ต.ค. – ชาวบ้าน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ลืออาถรรพ์ ต้นยางนาอายุร้อยปีหักโค่น หลังคลิปชายหญิงหลังต้นยางแชร์ว่อน ด้าน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ สั่งเร่งติดตามจับกุม


กรณีเกิดฝนตกหนักและพายุหมุนอย่างรุนแรงช่วงเย็นวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ต้นยางอายุร้อยปี ความสูงไม่ต่ำกว่า 30 เมตร ที่ปลูกอยู่สองข้างถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน หักโค่นไปทั้งหมด 14 ต้น รวมทั้งบริเวณศาลาศาลหลักเมืองแบ่งเขตแดนระหว่างบ้านปากกอง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ กับรอยต่อบ้านป่าเหว อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ถูกสายไฟฟ้าแรงสูงฟาดล้มพังเสียหาย จนมีการนำเหตุการณ์ดังกล่าวไปโยงกับกรณีมีการโพสต์คลิปมีเพศสัมพันธ์ของหนุ่มสาวคู่หนึ่งใต้ต้นยางฝั่งถนนที่มุ่งหน้าสู่จังหวัดลำพูน ห่างจาก สภ.สารภี 2.4 กิโลเมตร และห่างจากจุดที่เกิดต้นยางล้มประมาณ 1 กิโลเมตร จนชาวบ้านร่ำลือว่ามาจากการทำบัดสี หรือภาคเหนือเรียกว่า ขึด หรือสิ่งที่ไม่ดีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้น

ล่าสุดตำรวจชุดสืบสวน สภ.สารภี จังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบริมถนนเชียงใหม่-ลำพูน บริเวณหน้าสำนักงานย่อยของกรมทางหลวงชนบท ใกล้กับตลาดนัดเก้าแสน โดยคาดว่าคลิปดังกล่าวจะทำขึ้นเพื่อขายในโซเชียลมีเดีย แต่ไม่สามารถระบุช่วงเวลาได้ว่ามีการถ่ายทำช่วงเวลาใด


พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคลิปดังกล่าวเชื่อเป็นกลุ่มที่ถ่ายคลิปไปหารายได้ในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ และน่าจะเกิดขึ้นนานแล้ว ไม่ต่ำกว่าสามสี่เดือน แต่มีคนหยิบมาเชื่อมโยงเหตุภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ถือเป็นการซ้ำเติมชาวอำเภอสารภี และสร้างความเสื่อมเสียให้กับจังหวัดเชียงใหม่

อย่างไรก็ตาม แม้จะเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ แต่ผู้กระทำมีความผิด ทั้งตัวผู้แสดง ผู้ถ่ายทำ ผู้เผยแพร่ในความผิดฐานกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัลและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะเร่งรัดสืบสวนจับกุมให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องภัยธรรมชาติเป็นอีกส่วนหนึ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน พร้อมฝากถึงประชาชนให้แจ้งตำรวจทันทีหากพบพฤติกรรมในลักษณะนี้ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”