กทม.3 ต.ค.-ผู้ว่าฯ กทม.ลงเรือสำรวจแนวคันกั้นน้ำริมเจ้าพระยา มั่นใจ กทม.ไม่ท่วมซ้ำรอยปี 54 แน่ เพราะเสริมคันกั้นน้ำสูง 3.5 เมตร อุดรอยรั่วและพายุไม่เข้าหนัก เหลือแนวฟันหลอต้องวางกระสอบทรายเสริมแค่ 2.5 กม. ใน 9 เขตเท่านั้น
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงเรือตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำเหนือในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อยู่นอกแนวเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ใต้สะพานพระราม 7 ถึงชุมชนโรงสีเขตยานนาวาและตรวจดูความแข็งแรงและจุดรั่วซึม ของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่สะพานพระราม 7 จนถึงบางนาความยาว 78.93 กิโลเมตร รวมถึงตรวจดูความพร้อมของสถานีสูบน้ำทั้ง 97 สถานีที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยยืนยันว่าจากการติดตามเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมั่นไม่ซ้ำรอยปี 2554 แน่นอน เนื่องจากกรุงเทพมหานครมีการขุดลอกคูคลอง, ทำธนาคารน้ำและท่อสูบน้ำรองรับไว้แล้วพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำประจำ พร้อมสร้างแนวเขื่อนคันกั้นน้ำอุดรอยรั่วจุดฟันหลอ และวางกระสอบทราย ในบางพื้นที่แล้ว อีกทั้งสถานการณ์ระดับน้ำฝนที่ตกลงมาในปี 2564 นี้แตกต่างกับปี 2554 ที่ขณะนั้นมีพายุเข้าถึง 6 ลูก แต่ปี 64 แค่ 2 ลูกเท่านั้น คาดว่า อีก 5-6 วันสถานการณ์น้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะดีขึ้น และแนวเขื่อนคันกันน้ำยังเหลือรองรับระดับน้ำได้ดี 1.20เมตร จากที่รองรับได้ 2.80-3.50 เมตร
ด้านนายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ รองผอ.สำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า คาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำ ระดับน้ำทะเลจะหนุนสูงสุดในวันที่ 10 ตุลาคนนี้โดยระดับน้ำที่กรมอุทกศาสตร์จะหนุนสูงสุดในเวลา 09:00 น. ประมาณ 1.15 เมตร แต่เชื่อว่าสามารถมือกับสถานการณ์นั้นได้เนื่องจากเขื่อนคันกั้นน้ำในพื้นที่ของกรุงเทพมหานครมีระดับสูงและเหลือรองรับได้ถึง 1 เมตรสำหรับการสำรวจและอุดแนวรอยรั่วหรือแนวฟันหลอ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ามีพื้นที่ 8.3 กิโลเมตรแต่เนื่องจากเอกชนได้เข้ามาสนับสนุนก่อสร้างคันกั้นน้ำ ขุดหน่อยรั่ว 5.8 กิโลเมตรทำให้เหลือแนวฟันหลอ พี่ต้องมีการเรียงกระสอบทรายเสริมเพื่อป้องกันน้ำรั่วซึม 2.5 กิโลเมตรกินพื้นที่ใน 9 เขตแบ่งเป็นพื้นที่พระนคร5 เขต รวม 1.3 กิโลเมตร ได้แก่ ดุสิต พระนคร ยานนาวา บางคอแหลม สาธร และฝั่งธนบุรี 4 เขต ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร ได้แก่ บางพลัด ธนบุรี คลองสาน และราชบูรณะ.-สำนักข่าวไทย