ปารีส 28 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าววันนี้ว่า ประเทศในยุโรปต้องหยุดการไม่รู้สึกรู้สา เมื่อถึงเวลาที่ต้องปกป้องผลประโยชน์ของตนเองและเสริมสร้างความสามารถในด้านการทหาร
ฝรั่งเศสก้าวเข้าสู่วิกฤติการณ์ทางการทูตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเกิดข้อพิพาทกับสหรับ ออสเตรเลียและอังกฤษเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กรณีที่ทั้งสามประเทศจับมือกับเป็นพันธมิตรไตรภาคีด้านความมั่นคงและตกลงจะช่วยออสเตรเลียในการสร้างกองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์และส่งผลให้ออสเตรเลียฉีกสัญญากับฝรั่งเศสในการจัดหาเรือด้ำน้ำพลังงานดีเซลให้ออสเตรเลียเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ นายมาครงกล่าวถึงประเด็นนี้เป็นครั้งแรกในวันนี้ โดยเรียกร้องให้ยุโรปร่วมกันดูแลตัวเองมากขึ้น ในขณะที่สหรัฐหันเหความสนใจไปยังจีนและอินโด-แปซิฟิกมากขึ้นเรื่อย ๆ เขากล่าวว่า ยุโรปจะต้องเลิกการไม่รู้สึกรู้สา เมื่อถูกกดดัน จะต้องตอบโต้และแสดงให้เห็นว่า ยุโรปก็มีอำนาจและความสามารถในการป้องกันตนเองเหมือนกัน ไม่ได้เป็นการทำให้สถานการณ์ลุกลามแต่เป็นการป้องกันตนเอง นายมาครงกล่าวด้วยว่า การตัดสินใจของออสเตรเลียในการฉีกสัญญาเรือดำน้ำกับฝรั่งเศส จะไม่กระทบกับยุทธศาสตร์ของฝรั่งเศสในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก นอกจากนั้น การยกเลิกข้อตกลงเรือดำน้ำนั้น มีผลกระทบกับฝรั่งเศสอย่างจำกัด โดยเกี่ยวข้องกับการจ้างงานไม่กี่ร้อยคน ในขณะเดียวกัน ในวันนี้กรีซ ก็ตกลงซื้อเรือฟริเกตจากฝรั่งเศส 3 ลำ และมีทางเลือกที่จะสามารถซื้อเพิ่มได้อีก 1 ลำ คิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 119,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย