นนทบุรี 27 ก.ย.-ยอดจดทะเบียนนิติบุลคลตั้งใหม่เดือนสิงหาคม 64 ยังเป็นบวกแม้อยู่ในช่วงผลกระทบโควิดโดยหลายธุรกิจเชื่อมาตรการระดมฉีดวัคซีนจะทำให้ภาคธุรกิจกลับมาดีขึ้นส่งผลให้ยอดจดทั้งปีพุ่งมากขึ้นถึง 70,000 ราย
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดเผยถึงยอด การจดทะเบียนจัดนิติบุคคลทั่วประเทศตั้งใหม่ในเดือนสิงหาคม2564 มีจำนวน 5,553 ราย เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.3 ซึ่งมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 11,833.29 ล้านบาทโดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 656 ราย คิดเป็นร้อยละ 12 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 237 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึง คนโดยสาร จำนวน 203 ราย คิดเป็นร้อยละ4
ทั้งนี้ ส่งผลให้ยอดรวมจุดทะเบียนตั้งใหม่ ในช่วง 8 เดือน ปี 64 ตั้งแต่มกราคม-สิงหาคม 64 รวมทั้งสิ้น 52,236 ราย ขณะที่ยอดธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนสิงหาคม 2564 มีจำนวน 1,176 รายเพิ่มขึ้นเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 12 มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 4,832.30 ล้านบาท ถือว่าสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 103 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 68 ราย คิดเป็น ร้อยละ 6 และธุรกิจการให้คำปรึษาด้านบริหารจัดการ จำนวน 37 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ส่งผลยอดธุรกิจเลิกกิจการในช่วง 8 เดือนปี 64 ตั้งแต่มกราคม–สิงหาคม 64 มียอดทั้งสิ้น 7,246 รายส่งผลให้ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนสิงหาคม 2564 ทั่วประเทศ มีจำนวน 807,531 ราย มูลค่าทุน 19.31 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 197,063 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.40 บริษัทจำกัด จำนวน 609,161 ราย คิดเป็นร้อยละ 75.43 และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,307 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.16เป็นต้น
ทั้งนี้กรมฯได้วิเคราะห์การจดทะเบียนธุรกิจประจาเดือนสิงหาคม 2564การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเดือนสิงหาคม 2564 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จานวน 5,553 ราย ลดลงร้อยละ 2 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า (กรกฎาคม 2564) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เมื่อเปรียบเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน (สิงหาคม 2563) ในขณะที่การจดทะเบียนเลิกธุรกิจในเดือนสิงหาคมมีจานวน 1,176 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า (กรกฎาคม 2564) และลดลงร้อยละ 12 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
(สิงหาคม 2563) การเปลี่ยนแปลงของการจดทะเบียนธุรกิจในเดือนสิงหาคม 2564 นั้นมีผลมาจากมาตรการ ควบคุมการแพร่ระบาดที่ยังคงเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ยังอยู่ใน ระดับสูง อีกทั้งการจากัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ เช่น การงดรับประทานอาหารในร้านอาหาร และมาตรการ ล็อคดาวน์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564เมื่อพิจารณาการลดลงของจานวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเดือนสิงหาคม 2564 เทียบกับ เดือนก่อนหน้า (กรกฎาคม 2564) พบว่าการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในแต่ละภาคธุรกิจนั้น มีแนวโน้ม ลดลงในกลุ่มธุรกิจบางประเภท โดยกลุ่มธุรกิจที่มีจานวนการจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้าโดยแนวโน้มที่ลดลงดังกล่าว เป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย ในเดือนสิงหาคม 2564 ซึ่งอยู่ที่ 40 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าถึงร้อยละ 4
นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ถือเป็น ประเด็นสาคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจที่มีการชะลอตัวเพื่อติดตามสถานการณอ์ยู่ในขณะนี้แต่การผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 และจำนวน ผู้ได้รับวัคซีนในประเทศที่เพียงพอ จะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นที่ดีในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งการฟื้นตัวของ การส่งออก และมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเป็นปัจจัยเสริมที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่องดังนั้นกรมฯยังมั่นว่าในช่วงเวลาที่เหลือยอดการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ทั่วประเทศในปีนี้โอกาสยอดจะอยู่ที่ 65,000-70,000 รายได้แน่นอน.-สำนักข่าวไทย