ก.พาณิชย์ 7 พ.ย.- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมเชื่อมโยงข้อมูลบัญชีม้านิติบุคคลกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตัดวงจรอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ พร้อมออกมาตรการเข้มสกัดกั้นการจดทะเบียนนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงต่อการฟอกเงิน หรือนำบัญชีนิติบุคคลไปหลอกลวงประชาชน ป้องกันการนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายและแก้ไขปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลอย่างเป็นรูปธรรม
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ได้มอบหมายให้ นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประชุมหารือร่วมกับ นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center: AOC) และนายสรรเพชญ แสงเนตรสว่าง ผู้อำนวยการกองกำกับและตรวจสอบ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ถึงวางแนวทางการป้องกันการจดทะเบียนนิติบุคคลที่มีรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงต่อการฟอกเงิน ในกรณีบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานหรือเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคารที่ถูกใช้ในการกระทำความผิดมูลฐาน รหัส HR-03 ตามประกาศฯ ของสำนักงาน ปปง. เพื่อแก้ไขปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลที่ถูกนำไปใช้ในการกระทำผิดทางอาญา เช่น การหลีกเลี่ยงภาษี การฟอกเงิน และอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) จะเชื่อมโยงข้อมูลบุคคลที่มีรายชื่อเสี่ยงสูงต่อการฟอกเงิน ในกรณีเป็นบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานหรือเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคารที่ถูกใช้ในการกระทำความผิดมูลฐานเพื่อแก้ไขปัญหาบัญชีม้านิติบุคคล โดยกำหนดมาตรการตรวจสอบและเรียกให้ผู้มีรายชื่อรหัส HR-03 ตามประกาศของสำนักงาน ปปง. ต้องมาแสดงตนก่อนการรับจดทะเบียนนิติบุคคลทุกราย
การดำเนินงานในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาบัญชีม้านิติบุคคล ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเป็นอย่างมาก และหวังว่ามาตรการที่เข้มงวดนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจอย่างสุจริต โดยกรมฯ พร้อมทำงานด้านการจดทะเบียนธุรกิจอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น และปิดโอกาสไม่ให้มิจฉาชีพนำความน่าเชื่อถือจากการจดทะเบียนนิติบุคคลไปใช้หลอกลวงประชาชน นำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ เพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย และลดปัญหาการทำลายเศรษฐกิจของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
การแก้ไขปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจึงทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถลดช่องทางในการกระทำความผิดทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความโปร่งใสให้กับระบบธุรกิจของประเทศ” นางอรมน กล่าว. -517-สำนักข่าวไทย