ตรัง 17 ก.ย. – เจ้าของรีสอร์ตบนเกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ถึงกับทรุด ถูกโจรบุกรื้อห้อง ขโมยสายไฟไปขาย มูลค่าความเสียหายคาดมากกว่า 1 ล้านบาท
รีสอร์ตของนายอภิรมย์ รักไทย อายุ 57 ปี และนางทัชวรรณ รักไทย อายุ 59 ปี พื้นที่ ม.1 ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หลังโดนคนร้ายทุบกระจก รื้อฝ้าเพดานในห้องพัก หลังปิดช่วงโควิด-19 เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา
ล่าสุด พ.ต.ท.ชุมพล ด้วงคง พนักงานสอบสวน สภ.ปะเหลียน ตำรวจประจำเกาะสุกร พร้อมนายอภิรมย์ รักไทย และนางทัชวรรณ รักไทย สามีภรรยา เจ้าของสุกร คาบาน่า รีสอร์ท ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุห้องพักในรีสอร์ตที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว เมื่อเที่ยวมาเกาะสุกรต้องแวะพักเช็กอินที่แห่งนี้ เพราะเป็นที่พักติดริมทะเล อยู่บนเนิน มองเห็นเกาะเหลาเหลียง เกาะเภตรา เปิดประตูออกมาเห็นวิวทะเล สัมผัสบรรยากาศ 180 องศา
จากการสำรวจสภาพห้องพักพบว่า นอกห้องพักยังอยู่ในสภาพดี หลังคาด้านนอกยังสมบูรณ์ แต่ในห้องกลับพบร่องรอยทุบทำลายประตูกระจกที่ล็อกประตูไว้ บนฝ้าเพดานโดนรื้อลงมาเกือบทั้งหมด เพื่อเอาสายไฟที่เดินอยู่ในท่อพีวีซีใต้ฝ้าเพดาน ดึงไปเฉพาะสายไฟ ทำให้ฝ้าเพดานหล่นมาที่พื้นด่านล่างพังเสียหายทุกห้องพัก นอกจากนี้ยังพบแอร์ที่ยังมีสภาพใช้งานได้ดี โดนรื้อเอาเฉพาะแผงทองแดงออกมา และอะลูมิเนียมที่แขวนผ้าม่านก็โดนถอดออก เหลือเพียงผ้าม่านทิ้งไว้ ทำให้ระบบไฟฟ้าแผงวงจรทุกห้องเสียหายทั้งหมด และยังพบหลักฐานคือ ไม้ยาว 3 เมตร ที่ใช้ทุบทำลาย และใช้กระทุ้งฝ้าเพดาน พบวางไว้ในห้องพัก
ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างประเมิน เบื้องต้นแต่ละห้องความเสียหายไม่น้อยกว่า 300,000 บาท รวมบ้านพัก 9 หลัง 14 ห้องนอน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 2 ล้านบาท ทำเอาเจ้าของท้อใจ ไม่กล้าลงทุนต่อ หวั่นความปลอดภัยและเกิดเหตุซ้ำ จึงวอนท้องที่และท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงนายก อบต.เกาะสุกร เข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ ส่วนกล้องวงจรปิดของรีสอร์ตที่เคยติดตั้งไว้ก่อนโควิด-19 นาน 2 ปี ทำให้กล้องวงจรชำรุดเสียหาย เนื่องจากไอทะเลกัดกร่อน จึงไม่สามารถใช้งานได้
ขณะที่ตำรวจลงตรวจสอบและเก็บข้อมูล รวบรวมพยานหลักฐานและพยานแวดล้อมต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงไปถึงตัวคนร้าย ส่วนมูลค่าความเสียหายยังประเมินไม่ได้ โดยวันนี้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนขั้นตอนต่อไปเตรียมประสานให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง เข้ามาเก็บวัตถุพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อหาตัวคนร้าย ส่วนตัวคนร้ายตำรวจจะเร่งสืบสวนสอบสวนหาประจักษ์พยานให้เร็วที่สุด และจะทำให้เต็มที่
ตอนนี้พอจะพบเบาะแสคนร้ายบ้างแล้ว เนื่องจากของกลางบางส่วนที่คนร้ายนำไปขายในร้านขายของเก่า มีเจ้าของร้านขายของเก่านำมาส่งมอบให้ตำรวจ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเป็นการบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ ลักทรัพย์
ด้านนายอภิรมย์ รักไทย ยอมรับว่าหนักมาก ไม่ใช่เป็นแค่การลักขโมยธรรมดา เท่ากับถูกทำลายทรัพย์สินให้เสียหาย ตอนนี้ประเมินค่าเสียหายล้านหนึ่งก็เอาไม่อยู่ ซึ่งค่าเสียหาย 1 ล้านบาทขึ้นไป ตนเองจะต้องไปประเมินราคาอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพราะถูกทำลายไป 9 หลัง 14 ห้องนอน โดนทำลายหมด เพื่อเอาของไปขายแปรสภาพเป็นของเก่าหมด แต่ส่วนเสียหายไม่คุ้มค่า ตอนนี้ขาดความมั่นใจที่จะลงทุนต่อในเกาะ ยอมรับว่าเมื่อก่อนคนพื้นที่ในเกาะคือดี แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไป นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น นักลงทุนที่ไหนจะกล้ามาลงทุนถ้าพบเห็นสภาพแบบนี้ ผู้นำในท้องถิ่นควรช่วยกันเข้ามาดูแลด้วย ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยผู้ประกอบการให้เขาดูแลกันเอง หากถามว่าต่อไปจะกล้าลงทุนอีกไหม ตอบเลยว่าคิดหนักมาก หากลงทุนต่อแล้วจะคุ้มค่าไหม หากมาเจอในช่วงปิดที่เข้าหน้าโลว์ซีซั่น โจรมันจะเข้ามาขโมยอีกไหม ถามว่าอนาคตจะเกิดอีกไหม รับประกันไม่ได้เลย จากที่เราเปิดรีสอร์ตนี้มาเกือบ 20 ปี นี่คือเหตุการณ์ครั้งแรกที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยอมรับว่าหนักสุดๆ แต่ก่อนเคยทิ้งรีสอร์ตไว้ 1-2 เดือน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีของหาย ไม่มีคนนอนเฝ้า ไม่ได้จ้างคนเข้ามาดูแลด้วย แต่ก็ไม่มีอะไรหายหรือได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แต่ตอนนี้ 3-4 วัน มาเฝ้า 2-3 วัน มาดู ก็ยังเจอว่ามีโจรเข้ามาลักขโมยเรื่อยๆ หากเปิดเกาะสุกรได้ก็ยังหวั่นกลัวไปจนถึงนักท่องเที่ยวอีกด้วยว่าจะโดนโจรกรรมสิ่งของ หากนักท่องเที่ยวไปเที่ยวแล้วตอนกลางคืน โดนขโมย มีโอกาสเป็นไปได้หมด หากตำรวจจับคนร้ายได้ตนเองจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด
เบื้องต้นพอจะรู้กลุ่มตัวคนร้ายแล้ว เนื่องจากร้านที่รับซื้อของเก่าร้านหนึ่งในเกาะสุกรนำของกลางไปให้ตำรวจท้องที่ประจำเกาะสุกร คาดว่าเป็นของที่ขโมยมา แต่ในส่วนสิ่งของอื่นๆ ไม่รู้ว่ากระจัดกระจายไปอยู่ที่ไหนบ้าง แต่อาจจะเป็นใครบ้างนั้น ยังอยู่ระหว่างการติดตามสืบสวนสอบสวนของตำรวจ.-สำนักข่าวไทย