17 ก.ย. – ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าปาดคอสาวโรงงานไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากถูกจับกุมตัวได้เมื่อคืนที่ผ่านมา ปรากฏว่าชาวบ้านที่โกรธแค้นต่างกรูเข้าไปรุมประชาทัณฑ์จนฝุ่นตลบ
เมื่อคืนชุดสืบสวนตำรวจภูธรเมืองระยอง ควบคุมตัวนายอุดร เกณฑ์มา อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอสาวโรงงานระยอง ไปสอบปากคำที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดระยอง หลังจนมุมตำรวจชุดไล่ล่าระดมกำลังจับกุมตัวได้ขณะกำลังเดินอยู่ริมถนนในเขตอำเภอพนัสนิคม จ.ชลบุรี
หลังจากเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 23 ปี ก่อนอำพรางศพไว้บริเวณหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ก่อนหลบหนีไปที่รอยต่อ จ.ฉะเชิงเทราและชลบุรี กระทั่งถูกจับกุมตัวได้
จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาอ้างว่าอยู่ระหว่างการตกงานและเข้าไปอยู่พื้นที่ อ.บ้านค่าย ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุประมาณ 2 สัปดาห์ และก่อนก่อเหตุนั้นได้พบกับเหยื่อมา 2 วันในช่วงที่ไปซื้อลาบที่ร้านห้องแถวจุดเกิด จนถึงวันเกิดพบผู้ตายลงรถรับ-ส่งพนักงานจึงลงมือ แต่อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าให้ตายแต่อย่างใด
สำหรับมูลเหตุจูงใจในการลงมืออยู่ระหว่างสอบปากคำให้ชัดเจนว่า ประทุษร้ายต่อทรัพย์สินหรือเหตุอื่นๆ เพราะตามข้อมูลหลังเกิดเหตุพบว่าผู้เสียหายไม่ได้สวมเสื้อ มีแต่เสื้อชั้นในสีดำ และกางเกงยีนขายาว นอนเสียชีวิตจมกองเลือด
ทั้งนี้ ระหว่างถูกควบคุมตัวไปส่งยัง สภ.หนองกรับ ซึ่งเป็น สภ.ท้องที่เกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวกรูกันเข้าไปสอบถามผู้ต้องหาว่าฆ่าเหยื่อเพราะเหตุใด แต่ผู้ต้องหาตอบว่า “ขอโทษครับ” ก่อนที่ตำรวจจะรีบนำตัวขึ้นรถตู้ไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น, ชิงทรัพย์ และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ ซึ่งอัตราโทษสูงสุด คือ ประหารชีวิต โดยก่อนหน้านั้นตำรวจได้ตั้งค่าหัวล่าผู้ต้องหารายนี้เป็นเงินถึง 50,000 บาท
ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหาเคยบวชเป็นพระเมื่อช่วงปี 2561 ที่จังหวัดเลย โดยได้ย้ายทะเบียนจาก อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ไปบวชอยู่ อ.วังสะพุง จ.เลย แต่ปรากฏว่าเคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายจึงย้ายไปอยู่อีกวัดแห่งหนึ่ง ใน อ.วังสะพุง กระทั่งถูกจับสึกเพราะมีพฤติกรรมเช่นเดิม
นอกจากนี้ เมื่อปี 2556 เคยมีประวัติก่อเหตุทำร้ายพ่อเลี้ยงจนบาดเจ็บสาหัส เพราะคิดว่าเป็นพ่อเลี้ยงเป็นคนฆ่าไก่ตาย โดยผู้ต้องหาได้ใช้มีดแทงพ่อเลี้ยงนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งลำตัวและใบหน้า หลังจากนั้นจึงถูกจับดำเนินคดี แต่ไปติดคุกอยู่ในเรือนจำได้ไม่นานก็พ้นโทษออกมา
และเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (17 ก.ย.) พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ แต่ทว่าเกิดความวุ่นวาย เพราะชาวบ้านที่โกรธแค้นได้กรูเข้าไปหวังรุมประชาทัณฑ์ จนทำให้เกิดความวุ่นวายอย่างหนัก ไปชมภาพบรรยากาศ
หลังจากนั้นตำรวจได้ระดมกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ ก่อนเร่งนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกระบะและขับออกไป เบื้องต้นมีรายงานว่าผู้ต้องหาอาจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เพราะใส่หมวกกันน็อก และเจ้าหน้าที่ต้องยกเลิกการทำแผนทันที. – สำนักข่าวไทย