กรมทรัพย์สินทางปัญญาคว้ารางวัลเลิศรัฐสาขาบริการภาครัฐ

นนทบุรี 17 ก.ย.-กรมทรัพย์สินทางปัญญา คว้ารางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2564 สาขาบริการภาครัฐ ทางด้าน “ระบบรับแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์และใช้บริการข้อมูลลิขสิทธิ์”


นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา รับรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี พ.ศ. 2564 สาขาบริการภาครัฐ ระดับดี ประเภทพัฒนาการบริการ จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) โดยรองนายกรัฐมนตรี (ดร.วิษณุ เครืองาม) ให้เกียรติมอบรางวัลดังกล่าว ในผลงาน “ระบบรับแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์และใช้บริการข้อมูลลิขสิทธิ์” ซึ่งเป็นระบบรวบรวมฐานข้อมูลลิขสิทธิ์ อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและผู้ประกอบการที่สนใจผลงานลิขสิทธิ์ สามารถตรวจสอบผลงานลิขสิทธิ์และติดต่อขออนุญาตใช้งานลิขสิทธิ์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาเชิงพาณิชย์ โดยกรมฯ พร้อมเดินหน้าพัฒนาระบบงานบริการด้านทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า “กรมทรัพย์สินทางปัญญามุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนาการบริการและการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวทันสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง เพื่อยกระดับการให้บริการและตอบสนองความต้องการต่อภาคธุรกิจและประชาชนอย่างเท่าทัน โดยระบบ “แจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์และใช้บริการข้อมูลลิขสิทธิ์” ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จของกรมฯ ที่เกิดจากการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปองค์กรสู่ “Smart DIP” พัฒนางานบริการด้านลิขสิทธิ์ ไปสู่ระบบรับแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งประชาชนและนักธุรกิจสามารถยื่นคำขอแจ้งงานอันมีลิขสิทธิ์ได้ทุกที่ทุกเวลา ลดระยะเวลาจาก 30 วัน เหลือ 3 วัน ทั้งยังสามารถตรวจสอบสถานะคำขอและติดตาม


ทั้งนี้ การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ได้ทุกขั้นตอนโดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกรวบรวมไว้เป็นฐานข้อมูลการแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์แห่งเดียวในประเทศไทย ประชาชนทั่วไปสามารถสืบค้นข้อมูลลิขสิทธิ์ที่ต้องการนำไปใช้ประโยชน์ ทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ มีช่องทางติดต่อเจ้าของสิทธิเพื่อขออนุญาตใช้งานลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อันช่วยอำนวยความสะดวกและส่งเสริมให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับเจ้าของสิทธิ์และประชาชนผู้ใช้สิทธิอย่างกว้างขวาง นำมาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจประเทศอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดให้มีการมอบ “รางวัลเลิศรัฐ” แก่หน่วยงานที่มีผลการดำเนินงานที่เป็นเลิศทั้งด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐ การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภายในองค์กร และเปิดระบบราชการให้ภาคส่วนอื่นเข้ามามีส่วนร่วม เป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูหน่วยงานที่ได้มุ่งมั่นปฏิบัติราชการจนประสบความสำเร็จ ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้มุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาระบบงานทรัพย์สินทางปัญญาในทุกประเภทให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนางานบริการประชาชนและภาคธุรกิจให้สะดวกและรวดเร็ว รองรับการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง