รัฐสภา 15 ก.ย.-“ศรัณย์วุฒิ” ท้าสาบานให้มีอันเป็นไป ยืนยันไม่เคยรับ “กล้วย” และไม่ใช่งูเห่า แฉถูกกลั่นแกล้งจากคนในพรรคที่อยากเสียบร่วมรัฐบาล และไม่พอใจที่จะอภิปรายนายกฯ
นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย แถลงกรณีที่คณะกรรมการจริยธรรมพรรคมีมติให้ขับออกจากพรรค ฐานลงมติในญัตติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลสวนมติพรรคว่า ขอเรียกร้องคนในพรรคเพื่อไทย ให้หยุดใส่ร้ายหรือ IO กล่าวหาตน และขอยืนยันตนยืนอยู่ตรงข้ามเผด็จการ และเป็นคนขออภิปรายพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ถูกสกัดไม่อภิปราย โดยอ้างว่าเวลาไม่พอ ทั้งที่เวลาของฝ่ายค้านเหลืออีกมาก ยืนยันไม่ได้เป็นงูเห่าและไม่มีนโยบายย้ายพรรคไปอยู่ที่ไหน ถ้าถูกขับออกจากพรรคก็จะถามประชาชน ว่าจะให้ตัดสินใจ อนาคตทางการเมืองอย่างไร และความจริงไปถามคนในพื้นที่ว่าหากต้องตัดสินใจถ้าถูกขับ จะเลิกเล่นการเมืองลาออกจากตำแหน่ง หรือจะต่อสู้ทางการเมืองเพื่อให้ประชาธิปไตยเบ่งบาน ปรากฏว่าคนอุตรดิตถ์บอกว่าต้องการให้นาย ศรัณย์วุฒิ สู้ต่อ และยังบอกว่าพร้อมจะเดินเคียงบ่าเคียงไหล่กับตนฉะนั้น ยืนยันว่าตนเป็น ผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่ใช่คนที่ใครจะมาสั่ง ซ้ายหันขวาหัน จึงจะอยู่สู้ต่อไปและยืนยันด้วยว่าไม่เคยรับ”กล้วย” พร้อมท้าสาบานว่าหากรับขอให้มีอันเป็นไป
“มีบางคนพูดถึงเรื่องกล้วย ถามคือมวลชนว่า คนกินกล้วยจะกล้าออกมาต่อสู้อย่างนี้หรือ อยากให้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศช่วยพิจารณา ขออย่ามาใส่ร้ายเรื่องกล้วย ผมไปไกลกว่านั้นมากและไปถามแต่ละคนเลยว่า มีใครเอากล้วยมาให้ศรัณย์วุฒิ ผมท้าเลยว่าถ้าใครให้กล้วย กับผมหรือผมรับกล้วยจากใครขอให้มีอันเป็นไป ผมท้าตรงนี้เลย” นายศรัณย์วุฒิ กล่าว
นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า กรณีของตนต่างจากส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรค เพราะที่ผ่านมาตนไม่เคยแหกมติพรรค แม้หลายครั้งไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่ครั้งนี้เป็นความเห็นต่างที่ต้องขัดแย้งกับผู้มีอำนาจในพรรค ไม่อ้างกฎบัตรผิดหรืออ้างป่วย แต่ที่กล้าสวนมติพรรคเพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์กับฝั่งประชาธิปไตยและประชาชน ตนจะสอนมวยก็ได้ว่ารู้จักคำว่าแกล้งแพ้ศึกเพื่อชนะสงครามหรือไม่ พร้อมระบุที่ผ่านมาเคยถูกผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยกลั่นแกล้ง จะไม่ให้ตนสมัครรับเลือกตั้งด้วยซ้ำ พร้อมกับแฉว่า มี”แก๊งปีศาจในห้องแอร์”อยากเสียบเข้าร่วมรัฐบาลจึงไม่พอใจที่ตนพยายามจะอภิปรายนายกรัฐมนตรี และพยายามกลั่นแกล้งตน จึงเป็นที่มาของมติคณะกรรมการจริยธรรมดังกล่าว.- สำนักข่าวไทย