เดนมาร์ก 15 ก.ย. – การล่าโลมาในหมู่เกาะแฟโร ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองของเดนมาร์ก ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังมีโลมากว่า 1,400 ตัว ถูกฆ่าภายในวันเดียวจากประเพณีฆ่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลของหมู่เกาะแฟโร
บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ฝูงโลมาคาดขาวถูกไล่ต้อนให้เข้าไปในอ่าวแคบและยาวที่ประกบด้วยผาน้ำแข็งสูงชัน หรือฟยอร์ดขนาดใหญ่ที่สุดในดินแดนแอตแลนติกเหนือเมื่อวันอาทิตย์ เรือหลายลำต้อนพวกมันจนถึงพื้นที่น้ำตื้นของหาดแห่งหนึ่งที่ถูกใช้เป็นสถานที่สังหารฝูงโลมาด้วยมีด จากนั้น ชาวบ้านก็นำซากโลมาขึ้นฝั่งไปแจกจ่ายให้แก่คนอื่น ๆ ภาพถ่ายแสดงให้เห็นฝูงโลมาดิ้นทุรนทุรายในน้ำทะเลสีเลือดในขณะที่มีชาวบ้านหลายร้อยคนยืนดูการสังหารดังกล่าวจากบนหาด นักชีววิทยาทางทะเลของหมู่เกาะแฟโร เผยว่า การฆ่าโลมาคาดขาวกว่า 1,400 ตัวภายในวันเดียวในครั้งนี้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของหมู่เกาะแฟโร ทำลายสถิติสูงสุด 1,200 ตัวในปี 2483
อย่างไรก็ดี การล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวาฬ เป็นประเพณีที่สืบต่อกันมาหลายร้อยปีบนหมู่เกาะแฟโร ขณะที่รัฐบาลของหมู่เกาะแฟโรระบุว่า ปกติชาวบ้านจะออกล่าวาฬนำร่องโดยเฉลี่ยปีละ 600 ตัว และล่าโลมาคาดขาวในจำนวนที่น้อยกว่าวาฬนำร่อง เช่น ในปี 2563 มีการล่าโลมาคาดขาว 35 ตัว และมีเพียง 10 ตัวในปี 2562
ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้สนับสนุนประเพณีดังกล่าวระบุว่า การล่าวาฬเป็นวิธีที่ยั่งยืนในการรวบรวมอาหารจากธรรมชาติและเป็นส่วนสำคัญของเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ขณะที่นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์ไม่เห็นด้วยกับประเพณีดังกล่าวมาเป็นเวลานานแล้ว โดยมองว่าการฆ่าวาฬนั้นโหดร้ายและไม่จำเป็น.-สำนักข่าวไทย