กรุงเทพฯ 11 ก.พ. –เงินบาท กลับมาแข็งค่า หลังตลาดคาด เฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ และจับตาการ ประกาศแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐ
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า เงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมา (6-9 ก.พ.) แข็งค่าทดสอบแนว 35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะอ่อนค่ากลับมาในช่วงปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทแข็งค่าตามสัญญาณของเงินทุนไหลเข้า และการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมระยะใกล้ๆ นี้ อย่างไรก็ดี กรอบการแข็งค่าของเงินบาทยังคงเป็นไปในกรอบที่จำกัด ท่ามกลางกระแสการคาดการณ์ของตลาดว่า อาจมีการเข้าดูแลเสถียรภาพของค่าเงินบาทจากทางการ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ เตรียมที่จะประกาศแผนปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ภายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
สำหรับในวันศุกร์ (10 ก.พ.) เงินบาทอยู่ที่ 35.06 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าต่อเนื่องจากระดับ 35.06 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (3 ก.พ.)
ด้านดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวสลับขึ้นลงจากแรงซื้อขายทางเทคนิค โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,585.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.14% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน เพิ่มขึ้น 8.40% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 54,972.26 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 636.67 จุด ลดลง 0.78% จากสัปดาห์ก่อน
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (13-17 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.00-35.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ด้านบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,570 และ 1,555 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,595 และ 1,610 จุด ตามลำดับ โดยอาจต้องจับตาสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนธ.ค. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค การผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และเฟดสาขานิวยอร์กเดือนก.พ. นอกจากนี้ นักลงทุนอาจรอติดตามตัวเลขจีดีพีของยุโรปและญี่ปุ่น รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษด้วยเช่นกั