กรุงเทพฯ 4 ก.ย. – อธิบดีกรมควบคุมโรคยืนยัน วัคซีนทุกชนิดที่ใช้ในไทยมีประสิทธิผลดี ทั้งป้องกันการติดเชื้อได้ ที่สำคัญคือ ลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต ขอให้มั่นใจ การจัดหาเป็นไปด้วยความสุจริต ไม่มีเงินทอน วอนอย่าด้วยค่าวัคซีน ซึ่งจะเป็นผลให้ประชาชน หวาดกลัวและไม่ไปฉีดวัคซีน
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคและนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรคร่วมกันแถลงข่าวยืนยันประสิทธิผลวัคซีนทุกชนิดที่ใช้ในประเทศไทย โดยนายแพทย์โอภาสย้ำว่า วัคซีนเป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมโรคโควิด-19 แต่ต้องทำควบคู่กับมาตรการส่วนบุคคลทั้งการใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง และรักษาสุขอนามัย ขณะนี้การติดเชื้อในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง แต่ยังต้องจัดระบบการเฝ้าระวังและสวบสวนโรค รวมทั้งขอให้ผู้อยู่ในเกณฑ์รับวัคซีนไปรับวัคซีนตามที่กำหนดเพื่อให้ควบคุมการระบาดได้ดียิ่งขึ้น
ขณะนี้คนไทยได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มร้อยละ 34.6 ของประชากรทั้งหมด ส่วนที่ได้รับ 2 เข็มแล้วร้อยละ 13.5 ยืนยันว่า ที่กระทรวงสาธารณสุขฉีดวัคซีนให้ประชาชน 35 ล้านโดส ยังไม่พบว่า มีการเสียชีวิตจากวัคซีนโดยตรง มีระบบการติดตามความปลอดภัยจากการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ตัวอย่างของพื้นที่ที่มีการฉีดวัคซีนแล้วพบว่า การติดเชื้อมีแนวโน้มลดลงได้แก่ ที่จังหวัดภูเก็ตซึ่งทำโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาต้องฉีดวัคซีนทุกคน จากจำนวน 27000 ราย ป่วย พบผู้ติดเชื้อ 85 ราย ร้อยละ 73 ไม่มีอาการ ที่เหลือมีอาการน้อย และไม่มีผู้เสียชีวิต ดังนั้นจึงสามารถส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวได้
ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ไทยฉีดวัคซีนซิโนแวคมากที่สุดซึ่งพบว่า มีผลในการป้องกันทั้งการติดเชื้อ ป่วยหนัก และเสียชีวิตได้มาก ต่อมาได้ปรับสูตรการฉีดวัคซีนเป็นฉีดไขว้ โดยให้ซิโนแวค แล้วตามด้วยแอสตราเซเนกา ห่างกัน 3 สัปดาห์พบว่า มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพียงรายเดียวเท่านั้น ซึ่งถือเป็นอัตราต่ำมาก เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ไม่ฉีดวัคซีน 1 ล้านคนจะเสียชีวิต 132 คน
สำหรับสถานการณ์การจัดหาวัคซีน คาดว่า ภายในเดือนนี้จะมีวัคซีนมากกว่า 15.3 ล้านโดสได้แก่ ซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตราเซนเนก้า 7.3 ล้านโดส และไฟเซอร์ 2 ล้านโดส เดือนตุลาคม 24 ล้านโดส เดือนพฤศจิกายนและธันวาคมเดือนละ 23 ล้านโดส โดยยังมีความจำเป็นต้องสั่งวัคซีนซิโนแวคเข้ามาเพิ่ม เพราะสถานการณ์การส่งมอบวัคซีนของแอสตราเซเนกาและไฟเซอร์ในปลายปียังไม่แน่นอน รวมทั้งอาจต้องฉีดวัคซีนในเด็กซึ่งวัคซีนชนิดเชื้อตายมีความปลอดภัยและผลข้างเคียงน้อยที่สุด
นายแพทย์โอภาส กล่าวย้ำว่า การจัดซื้อวัคซีนทุกชนิดของกระทรวงสาธารณสุขเป็นไปด้วยความโปร่งใส ไม่มีเงินทอน ส่วนการทำสัญญาสั่งซื้อ มีข้อตกลงกับบริษัทว่า จะไม่เปิดเผยข้อมูล ซึ่งจำเป็นต้องทำสัญญาเพราะจะไม่สามารถฉีดวัคซีนให้คนไทยได้มากเท่ากับปัจจุบัน รวมทั้งขอให้อย่าด้วยค่าวัคซีนที่ไทยจัดหาเพราะจะทำให้ประชาชนหวาดกลัว ไม่มาฉีดวัคซีนตามแผน เป็นผลเสียต่อการควบคุมโรคโควิด-19 .-สำนักข่าวไทย