กรุงเทพฯ 1 ก.ย.-กรมควบคุมโรค เผยความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้แรงงานต่างชาติในไทย ระดมฉีดให้กับกลุ่มแรงงานในโรงงานและตลาดสด พร้อมผนึกกำลังเครือข่าย ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับกลุ่มอาสาสมัครแรงงานข้ามชาติ
สัตวแพทย์หญิง เสาวพักตร์ ฮิ้นจ้อย ผอ.สำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้กับแรงงานข้ามชาติในไทยล่าสุดว่า ตัวเลขสะสม ฉีดไปแล้วประมาณ 356,337 คน โดยเป็นสัญชาติเมียนมา มากที่สุด รองลงมา คือ กัมพูชา และลาว โดยอายุเฉลี่ยที่ฉีดไปมากที่สุดคือ 38 ปี ช่วงวัยแรงงาน โดยที่ผ่านมาแบ่งการฉีดเป็นแบบเชิงรุก กลุ่มแรก คือ หากมีพื้นที่ โรงงาน ตลาด ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงแพร่ระบาด จะมีหน่วยเคลื่อนที่เดินทางไปฉีดให้ทันที และเน้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกลุ่มเสี่ยง สูงอายุ และโรคเรื้อรังและในพื้นที่ชายแดนห่างไกล อีกกลุ่ม คือ แรงงานข้ามชาติทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย สามารถแจ้งความประสงค์เข้ารับวัคซีนได้ด้วยตนเอง ลงทะเบียนทั้งช่องทางของกระทรวงการต่างประเทศ และช่องทาง รพ. ของกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยเคลื่อนที่
ขณะที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับเครือข่ายผู้แทนจากองค์การอนามัยโลก มูลนิธิ และ NGO ที่ทำงานงานเพื่อแรงงานข้ามชาติ ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ที่ได้รับมอบจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ประจำประเทศไทย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคในกลุ่มอาสาสมัครแรงงานข้ามชาติที่อยู่ในไทย สำหรับกลุ่มอาสาสมัครแรงงานข้ามชาติ ที่เป็นผู้ให้บริการข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรคโควิด-19 เป็นภาษาเพื่อนบ้าน ร่วมกับสายด่วนของกรมควบคุมโรค 1422 และปฏิบัติงานร่วมกับเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 มาต่อเนื่อง โดยวัคซีนที่ได้รับมอบครั้งนี้ได้กระจายไปยังศูนย์บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ใน 5 จังหวัดชายแดน ได้แก่ เชียงใหม่, แม่สอด, ตาก, สำนักงานสาธารณสุขอำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน และหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งได้ฉีดครบจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับมาในลอตแรกแล้ว เตรียมเดินหน้าฉีดให้กับกลุ่มพื้นที่เป้าหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย
