กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – อธิบดีกรมปศุสัตว์ระบุ สั่งระดมฉีดวัคซีนลัมปี สกินในปศุสัตว์เพื่อเป็นกันชนให้สัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติ เผยวัคซีนอีก 2.5 ล้านโดสถึงไทยประมาณวันที่ 3 – 6 ก.ย. นี้ หากฉีดวัคซีนได้ 80% ของประชากรโค-กระบือ มั่นใจโรคสงบภายใน 3 เดือน
นายสัตว์แพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์เปิดเผยว่า สั่งการให้ปศุสัตว์จังหวัดเร่งฉีดวัคซีนให้โค-กระบือพื้นที่ใกล้อุทยานแห่งชาติเพื่อเป็นกันชนป้องกันไม่ให้โรคติดต่อสู่สัตว์ป่า โดยเฉพาะที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ฉีดไปได้มากแล้วเนื่องจากพบกระทิงป่วยด้วยโรคลัมปี สกินแล้ว 4 ตัว
สำหรับวัคซีน 5 ล้านโดสที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง วงเงิน 684,218,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุมโรคลัมปี สกินในโค-กระบือนั้น ได้วางแผนบริหารจัดการและพร้อมให้ปศุสัตว์จังหวัดทุกจังหวัดจัดทำแผนการฉีดวัคซีนไว้แล้ว โดยเร่งรัดการจัดส่งจากบริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศให้มาถึงไทย 2.5 ล้านโดสประมาณวันที่ 3-6 กันยายน และอีก 1.5 ล้านโดสกับ 1 ล้านโดสจะมาถึงในเดือนถัดๆ ไป
อธิบดีกรมปศุสัตว์ ยืนยันว่า แผนกระจายวัคซีนเป็นไปอย่างทั่วถึงเป็นธรรมและตามหลักวิชาการครอบคลุมประชากรโค-กระบือไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของประชากรสัตว์กลุ่มเสี่ยงทั้งประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีโค-กระบือรวม 10,249,349 ตัว แบ่งเป็นโคเนื้อ 7,969,519 ตัว โคนม 811,688 ตัว กระบือ 1,568,042 ตัว โดยการฉีดวัคซีนลัมปี สกินของกรมปศุสัตว์นั้น ไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ จากเกษตรกรทั้งสิ้น
สำหรับความก้าวหน้าในการฉีดวัคซีนที่จัดซื้อโดยงบประมาณกรมปศุสัตว์ทั้ง 2 ครั้ง รวม 360,000 โดส และจัดสรรให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศได้ฉีดไปแล้วทั้งสิ้น 355,295 ตัว แบ่งเป็นในโคเนื้อจำนวน 29,973 ตัว โคนม 43,668 ตัว และกระบือ 17,654 ตัว ซึ่งสอดคล้องกับแผนการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันฝูงให้แก่โค-กระบือ ซึ่งจะนำไปสู่การเปิดตลาดนัดซื้อขายโค-กระบือและเคลื่อนย้ายได้ตามปกติ ช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโค กระบือของเกษตรกรล่าสุด อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า มีสัตว์ที่ป่วยทั้งหมด 571,447 ตัว โดยเป็นโคนม 8,703 ตัว โคเนื้อ 559,527 ตัว กระบือ 3,213 ตัว ตายสะสมรวม 47,900 ตัว โคนม 629 ตัว โคเนื้อ 42,265 ตัว และกระบือ 403 ตัว หายป่วยสะสมรวม 393,107 ตัว โคนม 4,835 ตัว โคเนื้อ 386,876 ตัว และกระบือ 1,846 ตัว โดยปัจจุบันสถานการณ์พบสัตว์ป่วยใหม่มีแนวโน้มลดลงอย่างมาก ซึ่งเมื่อดำเนินการฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมายเชื่อมั่นว่า โรคจะสงบได้ภายใน 3 เดือนอย่างแน่นอน. – สำนักข่าวไทย