กทม. 8 ส.ค.- “อนุทิน” ลงพื้นที่พร้อมชมรมแพทย์ชนบท ปฏิบัติการเชิงรุกในชุมชนริมคลองสามเสนและแฟลตแปลงจี กทม. วันนี้กระจาย CCR Team 40 ทีม ลงพื้นที่ 29 จุด ทั่ว กทม. เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อโควิดด้วยชุดตรวจ ATK ตั้งเป้าตรวจกว่า 27,000 ราย
วันนี้ (8 สิงหาคม 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่พร้อม หน่วยปฏิบัติการเชิงรุกในชุมชน CCR Team ในพื้นที่ชุมชนริมคลองสามเสนและแฟลตแปลงจี ดินแดง กทม. โดยนายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่าการลงพื้นที่ปฏิบัติการเชิงรุกในชุมชน กทม. โดยทีมแพทย์ชนบท 40 ทีม จากทั่วประเทศ รวมกว่า 400 คน ในวันนี้ ได้กระจายลงพื้นที่คัดกรองเชิงรุกในชุมชนแออัด 29 จุด ทั่ว กทม. ตั้งเป้าตรวจด้วย ATK ในวันนี้ไม่น้อยกว่า กว่า 27,000 ราย เพื่อสนับสนุนการทำงานของ กทม. ในการแยกผู้ติดเชื้อในชุมชนไม่ให้แพร่เชื้อต่อ เมื่อพบติดเชื้อจะตรวจด้วยวิธี RT-PCR ซ้ำทันที โดยใช้ผลทางห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา รวมถึงเตรียมฉีดวัคซีนให้กับประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง แห่งละไม่น้อยกว่า 110 โดส เพื่อให้เข้าถึงวัคซีนโดยเร็ว ลดการป่วยที่รุนแรงและเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ต้องขอขอบคุณทีมชมรมแพทย์ชนบท ความร่วมมือจากอาสาสมัครกลุ่มเส้นด้าย และอาสาสมัครในชุมชน รวมกว่า 400 คน ที่ช่วยดูแลประชาชนในชุมชนต่างๆ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ชุมชนริมคลองสามเสน ลงพื้นที่โดยทีมโรงพยาบาลจะนะ และประธานชมรมแพทย์ชนบท และจากโรงพยาบาลบางกรวย 2 จ.นนทบุรี รวม 17 คน และอาสาสมัครภาคประชาสังคมร่วมทีม โดยนำชุดตรวจ ATK สำหรับตรวจประชาชนกลุ่มเสี่ยงจำนวน 1,000 ชุด โดยได้ตรวจไปแล้วประมาณ 500 ราย พบผลบวกประมาณ 20 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 และ เตรียมยาฟาวิพิราเวียร์สำรองสำหรับผู้ติดเชื้อ 50 คน โดยชุมชนนี้เคยพบติดเชื้อจำนวนมาก การลงพื้นครั้งนี้เพื่อเก็บตกและค้นหาผู้ติดเชื้อที่เหลือในพื้นที่ ส่วนการลงพื้นที่แฟลตแปลงจี เขตดินแดง เป็นการลงพื้นที่โดยทีมจากโรงพยาบาลน่าน และ โรงพยาบาลรามัน จ.ยะลา รวม 15 คน นำชุดตรวจ ATK ตรวจเชื้อจำนวน 1,000 ชุด (เวลา 16.00 น.) ตรวจเชื้อไปแล้วประมาณ 900 คน พบผลบวก 79 คน และเตรียมยาฟาวิพิราเวียร์ สำรอง 170 ชุด สำหรับแจกให้กับผู้ติดเชื้อทันที เพื่อจะได้รับยาโดยเร็วในการรักษาตัวที่บ้าน
“กระทรวงสาธารณสุขพยายามทำทุกวิถีทางในการดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ให้เข้าถึงการตรวจหาเชื้อ และฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม ส่วนผู้ป่วยโควิด 19 จะต้องได้รับยาโดยเร็ว นอกจากนี้ได้ร่วมกับสำนักอนามัย กทม. สปสช. แก้ปัญหาการเข้าถึงระบบรักษา ให้เกิดประสิทธิภาพ และเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่ม ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ ให้ครอบคลุม สำหรับภาพรวมการฉีดวัคซีนใน กทม. ขณะนี้ ครอบคลุมแล้วกว่าร้อยละ 70 จากนี้จะเร่งเดินหน้าฉีดในภูมิภาคให้มากขึ้น” นายอนุทินกล่าว
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ ของ CCR Team ชมรมแพทย์ชนบท ปฏิบัติการเชิงรุกในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 4-7 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้ตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK ไปแล้ว 69,115 คน พบผลบวก 7,227 คน คิดเป็นร้อยละ 10.5 ในจำนวนนี้ ได้ส่งตรวจด้วยวิธี RT-PCR ต่อจำนวน 6,667 คน และได้ส่งเข้าระบบดูแลรักษาที่บ้าน Home Isolation ตามเกณฑ์ของ สปสช. รวมถึงได้จ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ให้กับผู้ป่วยที่พบจากการค้นหาเชิงรุกไปแล้ว 163,700 เม็ด และฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 1,838 โดส .-สำนักข่าวไทย