ก.ยุติธรรม 27 ก.พ.-รมว.ยุติธรรม เผยยังไม่มีความคิดเปลี่ยนตัวอธิบดีเอสไอ ยึดตามคำสั่ง คสช.ขณะที่อธิบดีดีเอสไอเตรียมประชุมร่วมปรับแผนการทำงานหลังครบ 12 วัน
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ว่า การทำงานของดีเอสไอมีความคืบหน้าตลอด แต่ขณะนี้ยังทำงานไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่สามารถให้คำตอบกับรัฐบาลและประชาชนได้ แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหลังการทำงานครบ 12 วันในสัปดาห์นี้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอจะมีการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับแผนการทำงาน โดยในคำสั่งมาตรา 44 ได้ให้อำนาจอธิบดีดีเอสไอเป็นผู้รับผิดชอบอย่างเต็มที่
ส่วนกรณีมีการมองว่าอธิบดีดีเอสไอไม่สามารถทำงานได้ตามเป้าหมายอาจจะมีการเปลี่ยนผู้รับผิดชอบนั้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ยืนยันตามคำสั่ง คสช.อธิบดีดีเอสไอยังเป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ และตนในฐานะรมว.ยุติธรรมที่กำกับดูแลดีเอสไอยังไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวบุคคล
สำหรับสถานการณ์ที่ยังมีพระจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่วัดพระธรรมกาย สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้มอบ หมายให้พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ โดยแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอและพระวินยาธิการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่วันละ 9 รูป เพื่อดูแลพระสงฆ์ที่เข้ามาชุมนุมในพื้นที่ หากไม่ใช่พระสงฆ์ที่อยู่ในวัดพระธรรมกายก็ขอนิมนต์ให้เดินทางกลับวัดซึ่งเจ้าคณะจังหวัด และเจ้าหน้าที่จากสำนัก งานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ช่วยดำเนินการอยู่แล้ว
ส่วนการเปลี่ยนแปลงให้ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้บัญชาการสำนักคดีภาษีอากร ดีเอสไอ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นเรื่องของสำนักนายกรัฐมนตรี ตนไม่ได้เป็นผู้เสนอ ซึ่งผู้อำนวยการคนใหม่ก็ต้องทำงานร่วมกับคณะสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว
ส่วนกรณีพระเทพปฏิภาณวาที ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหารเสนอว่า เจ้าหน้าที่ควรปรับการทำงาน ในบางเรื่องควรเป็นความลับ โดยไม่ต้องให้สื่อติดตามเข้าไป เพื่อป้องกันการขยายผลให้เกิดความเข้าใจหรือบิดเบือน นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ทุกเรื่องฝ่ายปฏิบัติการและรัฐบาลยึดเอาข้อเท็จจริงเป็นหลักในการดำเนินการและชี้แจงกับสังคมให้เข้าใจ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นประโยชน์กับสังคม และวัดพระธรรมกายควรปรับเปลี่ยนท่าทีด้วย
สำหรับกรณีการทำอัตวินิตบาตกรรมของพ่อค้าผลไม้นั้น ได้มอบหมายให้ดีเอสไอเข้าไปดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตและช่วยเหลือรื่องงานศพแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครอยากให้เกิด .-สำนักข่าวไทย