กัวลาลัมเปอร์ 7 มี.ค.- นายอานิฟาห์ อามาน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียระบุว่า การขับเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือออกนอกประเทศไม่ใช่ปฏิกิริยาเพียงชั่วขณะ แต่เป็นการกระทำที่ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
นายอานิฟาห์เขียนบทความลงในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์นิวสเตรทส์ไทมส์วันนี้ว่า วันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมามาเลเซียได้ขับเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือออกนอกประเทศโดยให้เวลา 48 ชั่วโมง การประกาศให้ทูตต่างชาติเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาบ่งชี้ว่าการสื่อสารระหว่างระหว่างมาเลเซียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ขาดสะบั้นลงแล้ว เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือถูกขับออกนอกประเทศเพราะใช้ถ้อยคำทั้งปากเปล่าและเป็นลายลักษณ์อักษรดูหมิ่นมาเลเซียและกระบวนการทางกฎหมายของมาเลเซียต่อสื่อมวลชนและสาธารณชนหลายครั้ง หวังสร้างความคลางแคลงใจให้แก่วิธีพิจารณาความอาญาและการสอบทานในการสอบสวนเหตุเสียชีวิตของชาวเกาหลีเหนือที่เชื่อว่าเป็นพี่ชายต่างมารดาของนายคิม จองอึน ทำให้รัฐบาลมาเลเซียไม่สามารถทำงานร่วมกับเขาในฐานะตัวแทนประเทศได้อีกต่อไป
นายอานิฟาห์ระบุต่อไปว่า การตัดสินใจขับเอกอัครราชทูตไม่ใช่เรื่องง่าย กระทรวงต่างประเทศไม่สามารถแถลงหรือดำเนินการผิดพลาดได้ เพราะในโลกการทูต ทันทีที่ได้ข้ามเส้นไปแล้วจะไม่มีทางย้อนกลับมาได้ กระทรวงต่างประเทศมาเลเซียได้พิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบถึงผลที่อาจติดตามมา ไม่ใช่ปฏิกิริยาเพียงชั่วขณะ ที่ผ่านมามาเลเซียไม่เคยประกาศให้นักการทูตประเทศใดเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาตามมาตรา 9 ในอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตปี 2504 และก่อนตัดสินใจกระทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน กระทรวงได้ดำเนินมาตรการทางการทูตอื่น ๆ แล้วหลายอย่าง แต่การกระทำของเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือเป็นสิ่งที่มาเลเซียไม่สามารถให้อภัยหรือลืมเลือนได้จึงต้องถูกขับออกนอกประเทศ ส่วนการตัดความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือและปิดสถานทูตเกาหลีเหนือในกรุงกัวลาลัมเปอร์จะเป็นมาตรการขั้นสุดท้าย.-สำนักข่าวไทย