กทม. 7 มี.ค. – มีความกังวลจากสมาชิกและคณะกรรมการตามแผนฟื้นฟูสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ว่าการเข้าตรวจค้นวัดเพื่อจับกุมพระธัมมชโย อาจกระทบต่อการจ่ายเงินของคณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกายคืนให้กับสหกรณ์ฯ ขณะที่การจ่ายเงินชำระหนี้ให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯ ตามแผนฟื้นฟูงวดเดือนมิถุนายนนี้ วงเงิน 650 ล้านบาท ยังขาดอีกเกือบ 250 ล้านบาท
คดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น มูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท โดยนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ซึ่งนั่งเก้าอี้ประธานกรรมการฯ ขณะนั้น ร่วมกับพวกยักยอกเงินสมาชิกสหกรณ์ฯ ไปจ่ายให้บุคคลต่างๆ รวมทั้งพระธัมมชโย กับพวก มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท คณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกายตกลงจ่ายเงินคืนให้กับสหกรณ์ฯ และกับการถอนฟ้องพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกาย
ครั้งแรก ยอดเงิน 684.78 ล้านบาท แบ่งชำระ 6 งวด งวดละ 100 ล้านบาท จ่ายครบเมื่อ 30 พฤศจิกายน 58 ครั้งที่ 2 ยอดเงิน 370.78 ล้านบาท โดยสั่งจ่ายเป็นเช็คล่วงหน้า 18 ฉบับ ฉบับละ 20 ล้านบาท เดือนสุดท้าย 30.78 ล้านบาท ขณะนี้จ่ายไปแล้ว 10 งวด คงค้างอีก 8 งวด หรืออีก 170 ล้านบาท
แต่คดีอาญายอมความไม่ได้ ดีเอสไอแจ้งข้อหาพระธัมมชโย ร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร จนนำไปสู่การออกหมายจับ ขณะที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง กระทั่งยกระดับไปสู่การขอหมายค้นวัดเพื่อจับกุมตัวพระธัมมชโย และมีการประกาศใช้มาตรา 44 พร้อมหมายค้นครั้งที่ 3 เมื่องกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ประธานกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ฯ ยอมรับว่า เข้าค้นวัดเพื่อจับกุมพระธัมมชโยอาจกระทบต่อการขึ้นเงินเช็คที่คณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกายสั่งจ่ายล่วงหน้าอีก 8 งวดที่เหลือ เพราะหากคณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ไม่ได้โอนเงินเข้าบัญชีไว้ก็เบิกเงินไม่ได้
ในการประชุมผู้บริหารแผนพบสมาชิกเจ้าหนี้วันนี้ สมาชิกรายย่อยหลายคนยังกังวลเรื่องชำระหนี้เงินฝากตามแผนฟื้นฟู งวดที่ 3 ที่สหกรณ์ฯ จะครบกำหนดจ่ายเงินให้สมาชิกในเดือนมิถุนายนนี้
ผู้บริหารแผนชี้แจงต่อสมาชิกว่า ยอดเงินที่จะต้องจ่ายให้สมาชิกตามแผนฟื้นฟูฯ งวดที่ 3 จำนวน 650 ล้านบาท ขณะนี้มีสภาพคล่องอยู่ที่ 400 ล้านบาท ส่วนที่ขาดอีก 250 ล้านบาท มี 2 แนวทาง คือ การขอให้ดีเอสไอปล่อยอายัดที่ดินของบริษัทเอ็มโฮม เอสพีวี 2 ซึ่งเป็นที่ดินที่นำมาจำนองไว้กับสหกรณ์ฯ ซึ่งทางบริษัทพร้อมจ่ายเงินไถ่ถอนคืนทันที
ส่วนอีกแนวทางคือ การประกาศขายที่ดินในจังหวัดกาญจนบุรี เนื้อที่กว่า 1,600 ไร่ ซึ่งมีผู้สนใจซื้อแล้วในราคา 262 ล้านบาท แต่ทางสหกรณ์ต้องยื่นผลการขอซื้อที่ดินต่อศาลล้มละลายกลางก่อน
ขณะที่วันนี้ (7 มี.ค.60) สหกรณ์ยังลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัทเอกชน ในการศึกษาการลงทุนพัฒนาและบริหารจัดการพื้นที่ยูทางเวอร์ และศูนย์ประชุมสหกรณ์ฯ เพื่อลงทุนทางธุรกิจและสร้างรายได้ให้กับสหกรณ์อีกทางหนึ่ง. – สำนักข่าวไทย