กรุงเทพฯ 26 ก.ค. – กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เดินหน้า 7 มาตรการล่าสุดแก้ปัญหาผลไม้ เผยมาตรการป้องกันโควิด-19 ของจีนและเวียดนามที่ออกมาใหม่ ที่เปลี่ยนเส้นทางขนส่งและการตรวจสิ่งปนเปื้อน ส่งผลกระทบต่อส่งออก เป็นเหตุให้มังคุดใต้ราคาตก
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษาและมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า คณะกรรมการกรรมการบริหารและจัดการผลไม้ (Fruit Board) ที่มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานได้จัดประชุมทางไกลเร่งด่วนและประสานการทำงานกับสำนักงานเกษตรของไทยในจีน รวมทั้งสมาคมผู้ประกอบการค้าผลไม้ที่มีสมาชิกกว่า 900 ล้งและผู้ให้บริการโลจิสติกส์เพื่อเร่งแก้ปัญหาการส่งออกผลไม้ไทยไปจีน ซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ที่จีนและเวียดนามออกใหม่ รองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้ประกาศล่าสุดของทางการเวียดนามเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ห้ามผ่านเขตกรุงฮานอย จึงต้องเปลี่ยนเส้นทางขนส่งมีระยะทางเพิ่มขึ้นอีก 150 กิโลเมตร เป็นเหตุให้การขนส่งทุกเส้นทางยากลำบากมาก เพราะเป็นฤดูฝนทั้งเส้นเชียงของผ่านด่านบ่อเตนของลาวไปผ่านด่านโมฮ่านในสิบสองปันนาของมณฑลยูนนาน และเส้นทางจากนครพนมผ่านลาวเวียดนามไปจีนที่กว่างสีจ้วง ฝนตกหนักตลอด และมีการตรวจโควิด-19 เข้มข้นทุกด่าน โดยบทลงโทษหากพบการปนเปื้อนโควิดซึ่งรุนแรงมากขึ้น ถึงขั้นถอนใบอนุญาตนำเข้า
ล่าสุด ฟรุทบอร์ดกำหนดมาตรการแก้ไขราคาผลไม้ตก โดยเฉพาะมังคุดภาคใต้ ดังนี้
- เร่งการนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์กลับจากจีนและเวียดนามทั้งการขนส่งทางบกและทางเรือให้หมุนเวียนกลับมาไทยเร็วที่สุด
- ขอการสนับสนุนจากศบค. ในการจัดหาวัคซีนจำนวนอย่างน้อย 30,000 โดสให้แก่พนักงานและแรงงานของบริษัทส่งออกและล้งตลอดห่วงโซ่ผลไม้เป็นการเร่งด่วน เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานของล้งและบริษัทส่งออก
- ผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิดและอำนวยความสะดวกให้ผู้ค้าและล้งจากภาคตะวันออกซึ่งมีกว่า 900 ล้งสามารถเข้าไปรับซื้อผลไม้ในพื้นที่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช เป็นต้น
- เร่งรณรงค์การบริโภคผลไม้ภายในประเทศ
- ขยายการค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
- เร่งระบายจำหน่ายผลไม้ออกจากพื้นที่กระจายทุกช่องทางโดยขอความร่วมมือภาคเอกชนและภาครัฐ
- สนับสนุนคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) และหน่วยงานภาครัฐเร่งขับเคลื่อนมาตรการตามที่ได้รับการอนุมัติไปก่อนหน้านี้ ทั้งแผนงานและงบประมาณตามแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือและภาคใต้
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า รมว.พาณิชย์ และรมว.เกษตรฯ สั่งการให้ติดตามสถานการณ์ตั้งแต่เข้าฤดูกาลลำไยภาคเหนือและผลไม้ภาคใต้อย่างใกล้ชิด โดยปีนี้ผลผลิตออกมาเร็วกว่ากำหนด 1 เดือน ซึ่งราคาลำไยและมังคุดในเดือนมิถุนายนอยู่ในเกณฑ์ดีและส่งออกได้มากขึ้น แต่หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่จึงทำให้ราคาลดลง นอกจากนี้ยังเป็นช่วงฤดูกาลผลไม้เวียดนามที่มีผลผลิตออกมามาก ทำให้การขนส่งผ่านด่านจีนเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทูตเกษตรและพาณิชย์ในจีนเร่งประสานงานเพื่อคลี่คลายความแออัดหน้าด่าน ตลอดจนล่าสุด คพจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานร่วมกับพาณิชย์จังหวัดและเกษตรและสหกรณ์จังหวัดได้ผ่อนปรนให้ล้งเข้ารับซื้อมังคุดเพิ่มขึ้น พร้อมกันนั้นได้ขยายการค้าออนไลน์และเพิ่มบริการขนส่งโดยความร่วมมือกับบริษัทไปรษณีย์ไทยคณะอนุกรรมการอีคอมเมิร์ซและคณะอนุกรรมการธุรกิจเกษตรของกระทรวงเกษตรฯ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์พร้อมกันนี้ได้ประสานความร่วมมือกับ อสมท กรมประชาสัมพันธ์ และสื่อมวลชนทุกแขนงช่วยรณรงค์บริโภคผลไม้ไทยเพื่อคลายวิกฤติให้เกษตรกร. – สำนักข่าวไทย