กรุงเทพฯ 12 ก.ค.-กต.ย้ำไทยยังร่วมกระบวนการสางปัญหา “เมียนมา” พร้อมช่วยประเทศเพื่อนบ้านฝ่า “โควิด”
วันที่ 12 ก.ค. นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงท่าทีของประเทศไทยต่อสถานการณ์ในประเทศเมียนมาล่าสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจำเป็นที่จะต้องให้กระบวนการของอาเซียนเดินหน้าได้โดยเร็ว และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์มนุษยธรรมและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเมียนมา ว่า ประเทศไทยติดตามสถานการณ์ในเมียนมาด้วยความห่วงใย เนื่องจากยังเกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเมียนมาและสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในเมียนมา ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลกระทบโดยตรงต่อไทย อย่างไรก็ตาม ไทยในฐานะประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง ต้องการเห็นสันติภาพ ความสงบสุข และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในเมียนมา ขณะเดียวกัน ไทยตระหนักดีถึงความซับซ้อนของสถานการณ์ในเมียนมา ดังนั้น ทุกย่างก้าวของไทยจึงต้องเป็นไปอย่างสุขุม รอบคอบ และรอบด้านอย่างยิ่ง โดยต้องคํานึงถึงผลที่จะตามมาในทุกด้านทุกมิติ ซึ่งหลายอย่างจำเป็นต้องอาศัยการดำเนินการทางการทูตแบบเงียบๆ (quiet diplomacy) เพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างตรงไปตรงมาและจริงใจในการผลักดันผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งในระดับทวิภาคี และร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ให้มีการยุติความรุนแรง ปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัว และให้ฝ่ายต่างๆ ในเมียนมาหันหน้ามาพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันโดยสันติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความอดทนและความเข้าใจสถานการณ์ที่ใกล้ชิดและถ่องแท้
นายธานี กล่าวอีกว่า ไทยเห็นว่าอาเซียนจะสามารถมีบทบาทสำคัญในการช่วยสนับสนุนให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพูดคุยกันในเมียนมาได้ ไทยจึงเสนอแนวทางการดำเนินการของอาเซียนและต้องการเห็นการแต่งตั้งผู้แทนพิเศษของอาเซียนโดยเร็วที่สุด เพื่อให้สามารถเริ่มหารือกับฝ่ายต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้ หากฝ่ายต่างๆในเมียนมายังไม่ยอมพูดคุยกัน ก็จะทำให้การแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ทั้งเศรษฐกิจ มนุษยธรรม และการระบาดของโรคโควิด-19 จะไม่สามารถทำอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ไทยเห็นว่าการสนับสนุนความช่วยเหลือมนุษยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนชาวเมียนมามีความสำคัญอย่างยิ่ง และกำลังหาลู่ทางต่างๆที่จะดำเนินการได้ โดยในระดับอาเซียน ไทยต้องการให้ศูนย์ความช่วยเหลือมนุษยธรรมของอาเซียน (ASEAN Coordinating Centre for Humanitarian Assistance—AHA Centre) สามารถเริ่มงานได้โดยเร็ว เพื่อช่วยเหลือประชาชนเมียนมาจำนวนมากซึ่งไทยพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ในระดับทวิภาคี ไทยได้มอบเงินให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมจำนวน 5 ล้านบาท ผ่านสภากาชาดไทยและเมียนมา เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนเมียนมาที่ได้รับความเดือดร้อน ควบคู่กับดำเนินโครงการสร้างเสริมการเตรียมความพร้อมและการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้กับเมียนมา ทั้งในส่วนกลาง และในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา นอกจากนี้ ไทยยังพร้อมสนับสนุนด้านมนุษยธรรมและสาธารณสุขที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเมียนมาเพิ่มเติมด้วย
นายธานี กล่าวว่า สำหรับข้อมติของที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติเกี่ยวกับสถานการณ์เมียนมานั้น ที่จริงแล้ว ไม่ได้มีแค่การห้ามส่งอาวุธให้กับเมียนมาเป็นการเฉพาะอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจกัน แต่กล่าวถึงสถานการณ์ในเมียนมาในหลากหลายมิติ ซึ่งท่าทีของไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมาต่อข้อมติดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางการทูตของไทยที่จำเป็นต้องสุขุม รอบคอบและรอบด้าน ตามที่กล่าวถึงข้างต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศต่าง ๆ เข้าใจดี และสอดคล้องกับท่าทีของประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมาอื่น ๆ ทุกประเทศที่มีท่าทีไปในทิศทางเดียวกันหมด .- สำนักข่าวไทย