คปภ.ถกด่วนเสริมเขี้ยวเล็บสกัดการฉ้อฉลประกันภัย

สำนักงาน คปภ. 4 ก.ค. – คปภ.ถกด่วน! คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและการมีส่วนร่วมด้านการประกันภัย เสริมเขี้ยวเล็บด้วย 3 มาตรการ สกัดการฉ้อฉลประกันภัย เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านประกันภัยอย่างเต็มพิกัด


ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ตนได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและการมีส่วนร่วมด้านการประกันภัย ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อรับฟังรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการการเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย ตลอดจนพิจารณาและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองผู้บริโภคด้านประกันภัย และพิจารณาประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม โดยคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย ผู้บริหารของสำนักงาน คปภ. ตลอดจนผู้บริหารและตัวแทนจากหน่วยงานภายนอก อาทิเช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมประชาสัมพันธ์ สมาคมส่งเสริมและคุ้มครองผู้บริโภค สมาพันธ์ชมรมคุ้มครองผู้บริโภค กรุงเทพมหานคร มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน และสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย เป็นต้น

ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้รายงานผลการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านประกันภัย ในรอบครึ่งปี 2564 ได้แก่ ความคืบหน้าของการดำเนินการตามความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2563 และการดำเนินงานต่างๆ เพิ่มเติมในรอบครึ่งปีที่ผ่านมา จากนั้นที่ประชุมฯ ได้ร่วมกันพิจารณาประเด็นที่ปรากฏตามข่าวโซเชียล เรื่องการชักชวนให้ไปจงใจติดโควิด เพื่อเอาเงินประกัน โดยที่ประชุมฯ เห็นพ้องกันว่า หากไม่ดำเนินการป้องปรามจะนำไปสู่การฉ้อฉลประกันภัย และจะเกิดความเสียหายต่อสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัยที่สุจริต โดยที่ประชุมฯ เห็นสอดคล้องกับ 6 มาตรการที่สำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัยได้มีมติร่วมกันตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้ว ทั้งยังมีการอภิปรายและเสนอแนะแนวทางต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ อาทิเช่น ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด พร้อมทั้งให้เผยแพร่ตัวอย่างผลการบังคับใช้กฎหมายให้ปรากฏต่อสาธารณชน โดยควรดำเนินการเอาผิด ทั้งผู้ที่กระทำความผิด และผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อจูงใจหรือยั่วยุให้ผู้อื่นกระทำความผิด ซึ่งจำเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ด้วย เนื่องจากอยู่นอกอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันให้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมอีก 3 มาตรการ ดังนี้


  1. เห็นควรให้มีมาตรการในการป้องปรามและดำเนินการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่มีเจตนาเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อจูงใจหรือยั่วยุให้ผู้อื่นกระทำความผิด อาทิเช่น ความผิดเกี่ยวกับการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือการโฆษณาขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย ความผิดเกี่ยวกับโรคติดต่อ โดยบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
  2. ให้เร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ ความเข้าใจด้านการประกันภัยและแนวทางในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการบริหารความเสี่ยงตามนโยบายการรับประกันภัยของแต่ละบริษัท แก่ประชาชนทุกกลุ่ม พร้อมทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการฉ้อฉลประกันภัย ทั้งนี้ หากมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ให้บังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง และให้เผยแพร่ข้อมูลปรากฏต่อสาธารณชน ทั้งในส่วนของผู้ที่กระทำการฉ้อฉลประกันภัย และผู้ที่มีเจตนาเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อจูงใจหรือยั่วยุให้ผู้อื่นกระทำการฉ้อฉลประกันภัย เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้ผู้อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
  3. ควรเร่งบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานประกันสังคม และ สคบ. เพื่อการป้องกันและป้องปรามพฤติการณ์การฉ้อฉลประกันภัย รวมทั้งเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและเฝ้าระวังเหตุอันควรสงสัยในพฤติการณ์ดังกล่าว

“ผมเห็นว่า ข้อเสนอแนะ 3 มาตรการข้างต้น เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยเติมเต็มกลไกในการจัดการปัญหาเรื่องการฉ้อฉลประกันภัยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยสำนักงาน คปภ. ขอน้อมรับทุกข้อเสนอแนะ และจะขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ อย่างเต็มที่ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคด้านการประกันภัยในยุคโควิด-19 ให้เกิดความเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง