กรุงเทพฯ 26 มิ.ย.-รมว.ยุติธรรม สั่งกรมคุ้มครองสิทธิฯ เร่งเยียวยาครอบครัวผู้ตายเต็มที่ โดนหนุ่มคลั่งยิงดับ 2 ราย ตามนโยบาย “ยุติธรรมสร้างสุข ยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน”
จากกรณี นายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี อดีตทหารเกณฑ์ ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิง นายรัฐวิทย์ สันติคุปตพงศ์ อายุ 32 ปี พนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่บริเวณซอยลาดพร้าว 25 จนเสียชีวิต ก่อนไปเหตุยิงผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม ที่สถาบันธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี จนเสียชีวิตอีกราย กระทั่งถูกตำรวจตามจับกุมตัวไว้ได้ นั้น
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานถึงคดีดังกล่าวแล้ว มีความห่วงใยต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต จึงสั่งการให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ช่วยเหลือเยียวยาตามแนวทาง “ยุติธรรมสร้างสุข ยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน” เพื่อให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเสมอภาคทุกชนชั้นและเท่าเทียม
ขณะที่นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ ประสานกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีสอบถามความคืบหน้าทางคดี และประสานทายาทของผู้เสียชีวิตเพื่อแจ้งสิทธิค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 พร้อมทั้งให้คำแนะนำการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม การเรียกค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญา พร้อมกับหลักเกณฑ์การฟ้องคดีแพ่งฐานละเมิด การขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ควรจะได้รับ
ทั้งนี้ เบื้องต้นหากตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา หรือถูกผู้อื่นกระทำให้เสียชีวิตโดยที่ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ทายาทมีสิทธิได้รับการช่วยเหลือเยียวยาในฐานะที่ตกเป็นเหยื่อ ได้แก่ 1.ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย จำนวน 50,000 บาท 2.ค่าจัดการศพ จำนวน 20,000 บาท 3.ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู จำนวน 40,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 110,000 บาท โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฯ ส่วนผู้เสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดปทุมธานี ได้ประสานงานกับตำรวจในพื้นที่พร้อมติดต่อทายาทเพื่อแจ้งสิทธิดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ส่วนกลาง (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) และส่วนภูมิภาค (สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ทุกแห่งทั่วประเทศ) หรือ ติดต่อสายด่วนยุติธรรม โทร 1111 กด 77.-สำนักข่าวไทย