กทม.รื้อบ้านชุมชนป้อมมหากาฬ ครั้งที่ 3 ไร้ความวุ่นวาย

 


กทม. 6 มี.ค.- กทม.ระดมเจ้าหน้าที่กว่า 100 คน เข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายในชุมชนป้อมมหากาฬเป็นครั้งที่ 3 ตามเป้า 6 หลัง ไร้เหตุปะทะ

S__7602408เจ้าหน้าที่สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.) ทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ตำรวจจาก สน.สำราญราษฏร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังกว่า 100 คน เข้าดำเนินการรื้อย้ายบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างภายในชุมชนป้อมมหากาฬ เป็นครั้งที่ 3 ปฏิบัติการครั้งนี้แบ่งเจ้าหน้าที่ออกเป็น 4 ชุด ชุดละ 25 คน


การเข้ารื้อถอนในครั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไร้เหตุปะทะ เนื่องจากมีการเจรจาทำความเข้าใจกับตัวแทนชุมชนไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยมีทหารเป็นตัวกลางช่วยสร้างความเข้าใจ มีเพียงชาวบ้านบางกลุ่มที่ออกมาร่วมสังเกตการณ์ แต่ก็ไม่มีการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใดรื้อป้อมมหากาฬครั้งที่3 (2)

วันนี้ กทม.จะดำเนินการรื้อย้ายบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 4 หลัง ที่เจ้าของบ้านยินยอมและโอนกรรมสิทธิ์ให้กับ กทม. คือ บ้านเลขที่ 61, 95, 107/1-3 และบ้านไม่มีเลขที่ ซึ่งเป็นบ้านปลูกสร้างรุกล้ำเท่านั้น ก่อนหน้านี้ กทม.ได้เข้ามารื้อถอนไปแล้ว 2 หลัง รวม 6 หลัง ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยไม่มีการรื้อถอนบ้านเลขที่ 127 และ 127/1 ตามที่คนในชุมชนป้อมมหากาฬกังวลแต่อย่างใด

S__7602407ในระหว่างที่ดำเนินการรื้อถอน แกนนำบางส่วนของพื้นที่ป้อมมหากาฬ ภาคประชาสังคม และผู้บริหาร กทม. ยังได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับการอนุรักษ์บ้านไม้เก่าแก่ที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรม จำนวน 24 หลัง รวมถึงประเด็นอื่นๆ เพื่อวางแนวทางการพัฒนาร่วมกัน โดยตั้งเป็นคณะกรรมการชุดเล็ก จากตัวแทน 3 ฝ่าย คือ กทม. ทหาร และคนในชุมชน สร้างความพอใจให้กับคนในป้อมมหากาฬ


ขณะนี้ภายในชุมชนป้อมมหากาฬ ยังมีบ้านเรือนที่ไม่ได้รื้อถอนอีก 36 หลัง จากทั้งหมด 42 หลัง เป็นบ้านที่บุกรุกสร้างใหม่ 5 หลัง โดยตามกรอบแผนการดำเนินงาน กทม.ต้องรื้อถอนให้เสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อพัฒนาพื้นที่เป็นสวนสาธารณะ และพื้นที่อนุรักษ์โบราณสถาน ซึ่งเป็นไปตามมติของพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินบริเวณป้อมมหากาฬ ปี 2535.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง