16 มิถุนายน 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Maldita (สเปน)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ
ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ
บทสรุป:
- ภาวะพายุไซโตไคน์ หรืออาการตอบสนองต่อการอักเสบทั่วร่างกายขั้นรุนแรง ยังไม่เคยเกิดกับผู้รับวัคซีนรายไหน อาสาสมัครที่ทดลองวัคซีนโควิด 19 ตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็ไม่มีใครล้มป่วยด้วยภาวะพายุไซโตไคน์
- RNA ของไวรัสที่เกิดจากการสังเคราะห์ในวัคซีนชนิด mRNA จะอยู่ในร่างกายได้ไม่นาน เมื่อ RNA หายไป ก็จะไม่มีโปรตีนของไวรัสให้สังเคราะห์อีกต่อไป ภาวะพายุไซโตไคน์จึงไม่มีทางเกิดขึ้น
ข้อมูลที่ถูกแชร์:
เป็นข้อมูลเท็จที่เผยแพร่ทางออนไลน์จนกลายเป็นไวรัลโดย โดโลเรส เคฮิลล์ นักชีววิทยาและศาสตราจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย University College Dublin และ อเล็กซองดรา อองรียง ครูด นักพันธุศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ซึ่งทั้งสองต่างมีประวัติปกป้องข้อมูลเท็จเกี่ยวกับไวรัสโควิด 19 ทั้งคู่
ข้อความของ โดโลเรส เคฮิลล์ ระบุว่า 30% ของผู้รับวัคซีนโควิด 19 จะเสียชีวิตในเวลาไม่กี่เดือนจากภาวะ “พายุไซโตไคน์” เนื่องจากร่างกายต้องสังเคราะห์หนามโปรตีนที่ได้รับจากวัคซีนในปริมาณมหาศาล
FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:
พายุไซโตไคน์ คือกลุ่มอาการตอบสนองต่อการอักเสบทั่วร่างกายขั้นรุนแรง เป็นสภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดพลาดและการตอบสนองการอักเสบเกินภาวะควบคุมได้
ไซโตไคน์ เป็นสารที่สร้างและหลั่งโดยเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน มีบทบาทด้านภูมิคุ้มกันและกระตุ้นการอักเสบ ซึ่งการอักเสบเป็นปฏิกิริยาตอบสนองทางภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอม แต่บางกรณีร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รุนแรงเกินไป หรืออาจเกิดขึ้นเพราะมีเชื้อโรคเข้าสู่อวัยวะในปริมาณมาก ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันหลั่งไซโตไคน์หลายชนิดสู่กระแสเลือดมากกว่าปกติ ก่อให้เกิดภาวะที่เรียกว่า “พายุไซโตไคน์” อาการของผู้ป่วยจากพายุไซโตไคน์มีตั้งแต่ มีไข้สูง, คลื่นไส้ และการอักเสบ ซึ่งอาจรุนแรงจนทำให้อวัยวะภายในทำงานล้มเหลวได้
อย่างไรก็ดี กอนซาเลส เฟอร์นานเดส ศาสตราจารย์ภาควิชาภูมิคุ้มกันวิทยา มหาวิทยาลัย University of Vigo ยืนยันต่อทาง Maldita.es ว่า ไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนกระตุ้นการเกิดพายุไซโตไคน์ ในทางตรงกันข้าม การฉีดวัคซีนทำให้ผู้รับวัคซีนรอดพ้นจากภาวะพายุไซโตไคน์ได้อีกด้วย
เปเป้ อัลคามี นักไวรัสวิทยาจากสถาบัน Carlos III Health Institute อธิบายว่า วัคซีนโควิด 19 ไม่ได้ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำปฏิกิริยากับหนามโปรตีนของไวรัสในจำนวนมหาศาลอย่างที่กล่าวอ้าง โดยเฉพาะวัคซีนชนิด mRNA เนื่องจากการทำงานของวัคซีนชนิด mRNA คือการส่ง RNA ของไวรัสที่เกิดจากการสังเคราะห์เข้าไปในร่างกายของผู้รับวัคซีน ซึ่ง RNA ของไวรัสเหล่านี้จะอยู่ได้ไม่นาน เมื่อ RNA หายไป โปรตีนของไวรัสก็ไม่มีให้สังเคราะห์อีกต่อไป RNA ของไวรัสจะอยู่ในร่างกายประมาณ 1 ถึง 2 วัน ซึ่งนานพอจะทำให้ร่างกายได้เรียนรู้และสร้างแอนติเจนของไวรัสเพื่อนำไปสู่การผลิตภูมิต้านทานในที่สุด
องค์การยาของสหภาพยุโรป (EMA) ยืนยันว่า RNA ไวรัสในวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA จะไม่ตกค้างในร่างกายของผู้รับวัคซีน เพราะเมื่อได้รับวัคซีนแล้ว เซลล์ในร่างกายจะอ่านคำสั่งของ RNA ก่อนจะผลิตหนามโปรตีนของไวรัสเป็นการชั่วคราว จากนั้นระบบภูมิคุ้นกันจะจดจำโปรตีนเหล่านั้นว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม แล้วทำการสร้างสารภูมิต้านทานและกระตุ้น T Cell ในเม็ดเลือดขาวเพื่อกำจัดหนามโปรตีนของไวรัสเหล่านั้น หากภายหลังผู้ได้รับวัคซีนติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ระบบภูมิคุ้นกันซึ่งจดจำไวรัสดังกล่าวได้ ก็จะเริ่มกระบวนการต่อต้านเชื้อไวรัส ซึ่ง RNA ของไวรัสจะไม่ตกค้างในร่างกาย และจะสลายไปไม่นานหลังการฉีดวัคซีน
เปเป้ อัลคามี ยังย้ำว่าที่ผ่านมาภาวะพายุไซโตไคน์ยังไม่เคยเกิดกับผู้รับวัคซีนรายไหน ทั้งจากผู้รับวัคซีนโรค SARS รวมถึงอาสาสมัครที่ร่วมทดลองวัคซีนโควิด 19 ตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็ไม่พบว่ามีใครล้มป่วยด้วยภาวะพายุไซโตไคน์แต่อย่างใด
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter