กรมอนามัย 14 มิ.ย.-กรมอนามัยสำรวจพบประชาชนยังคงนิยมใช้บริการเดลิเวอรีสั่งอาหาร ในช่วงสถานการณ์โควิด โดยเฉพาะพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 4 จังหวัด แนะผู้ส่งอาหาร เข้มทำความสะอาดมือ ก่อนและหลังส่งอาหารทุกครั้งหวั่นส่งต่อเชื้อโรคให้ผู้รับ ขณะที่ผู้สั่งซื้อให้จัดเตรียมภาชนะรองรับ
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังคงนิยมใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี ทำให้ผู้ประกอบการประเภทดังกล่าวต้องคุมเข้มปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซี่งจากการสำรวจอนามัยโพล ระหว่างวันที่ 30 พ.ค.–9 มิ.ย.64 ประเด็นการใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรีและการปฏิบัติตามคำแนะนำป้องกันโรคของผู้ให้บริการ พบว่า ประชาชนในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 73 จังหวัด ใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี ร้อยละ 35 ขณะที่พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 4 จังหวัด มีการใช้บริการถึงร้อยละ 53.9 ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 25-44 ปี ใช้บริการร้อยละ 29 รองลงมาคือกลุ่มอายุ 15-24 ปี และ 45–59 ปี ใช้บริการร้อยละ 28 ขณะที่กลุ่มวัยเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี แม้จะใช้บริการเพียงร้อยละ 12 ซึ่งเป็นช่วงการปิดเทอมอยู่กับบ้าน แต่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องดูแลให้เด็กได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจากอาหารที่สั่งด้วย โดยต้องให้เป็นอาหารที่หลากหลายและถูกหลักโภชนาการ
สำหรับการปฏิบัติตนของผู้ส่งอาหารตามคำแนะนำเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ในภาพรวมพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 4 จังหวัดนั้น ส่วนใหญ่ปฏิบัติตามมาตรการ ที่กำหนด โดยที่พบปฏิบัติได้มากที่สุดคือการสวมหน้ากากตลอดเวลาที่ให้บริการ ร้อยละ 97.5 รองลงมาคือ รับจ่ายค่าบริการโดยวิธี E-Payment ร้อยละ 93 และผู้ส่งแต่งกายสะอาดหรือสวมใส่ชุดฟอร์มที่กำหนดในขณะปฏิบัติงาน ร้อยละ 92.6 ตามลำดับ
ส่วนพฤติกรรมเสี่ยงที่พบในกลุ่มผู้ส่งอาหารคือ ไม่ทำความสะอาดมือก่อนและหลังสัมผัสอาหาร ร้อยละ 27.6 จึงอาจเป็นความเสี่ยงในการสัมผัสสิ่งของและแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ไปยังผู้ซื้อได้ ดังนั้น ขอให้ผู้ส่งอาหารทุกคนทำความสะอาดมือด้วยสเปรย์แอลกอฮอล์ทุกครั้งทั้งก่อนและหลัง สัมผัสบรรจุภัณฑ์หรือภาชนะบรรจุอาหาร แม้ว่าจะสวมถุงมือก็สามารถฉีดพ่นบนถุงมือได้เช่นกัน
สำหรับผู้สั่งซื้ออาหารนั้น ให้จัดเตรียมภาชนะรองรับอาหาร เช่น กล่องหรือโต๊ะแบบพับได้ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเมื่อออกมารับอาหารและให้ยืนห่างจากผู้ส่งอย่างน้อย 1 เมตร ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือ หลังการรับอาหารจากผู้ส่งอาหารทุกครั้ง และควรจ่ายค่าบริการโดยวิธี E-Payment หรือเตรียมเงินสดให้พอดี เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเงินทอน .-สำนักข่าวไทย