รัฐสภา 9 มิ.ย.-“ลุงพล” เลทนัดเดิมกมธ.กฎหมาย 3 ชั่วโมง เหตุเดินสายไหว้พระ จ.สมุทรสาคร ก่อนใส่สูทควง “ป้าแต๋น” ร้องสอบตำรวจฟ้องเท็จต่อศาลให้ออกหมายจับ ทั้งที่ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ นำนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ และ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ยื่นหนังสือ ขอความเป็นธรรม กับนายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดมุกดาหาร อันเป็นเท็จให้ศาลหลงเชื่อเพื่อออกหมายจับนายไชย์พล
นายษิทรา ขอให้กรรมาธิการตรวจสอบการออกหมายจับที่อ้างว่านายไชย์พลมีพฤติการณ์หลบหนี ทั้งที่นายไชย์พล ไม่ได้หลบหนีไปไหน รวมทั้งให้ตรวจสอบกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พยายามทำให้นายไชย์พลเกิดความอับอาย ด้วยการจับกุมนายไชย์พลที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะที่นายไชย์พล กำลังเข้ามอบตัว ซึ่งในวันที่จะพิจารณาขอปล่อยตัวชั่วคราว ตำรวจมาเชิญพยานให้มาให้ถ้อยคำกับศาลในลักษณะว่า นายไชย์พลจะมีการข่มขู่พยาน ทั้งที่ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งมองว่าเจ้าพนักงานกำลังเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่เป็นธรรมต่อนายไชย์พล
ด้านนายไชย์พล กล่าวว่าขอให้กรรมาธิการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมามีความรอบด้านและเป็นธรรม และก่อนจะจบการสัมภาษณ์ นายสิระ ได้ขอให้นายไชย์พลให้คำมั่นสัญญาว่า ไม่ว่าผลของศาลจะออกมาอย่างไรจะยอมรับ และไม่คิดหนี ทำให้นายไชย์พล จึงกล่าวกับสื่อมวลชนว่า พร้อมยอมรับคำตัดสินของศาลในทุกมิติและไม่หลบหนี
นายสิระ ย้ำว่ากรรมาธิการฯจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวเรื่องในสำนวน และจะต้องทำตามขอบเขตเท่าที่กฎหมายให้อำนาจไว้เท่านั้น ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน รวมถึงแม่ของน้องชมพู่ด้วย ที่สามารถเดินทางมายื่นร้องต่อคณะกรรมาธิการฯได้เช่นกัน
นายสิระ กล่าวว่า ตนจับพฤติกรรมของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะที่ลงพื้นที่บ้านกกกอกว่า เคยประกาศว่าจะจับผู้ร้ายให้ได้ภายใน 1 ปี และก็ประจวบเหมาะพอดีว่าการออกหมายจับครั้งนี้ครบ 1 ปีพอดี จึงตั้งข้อสังเกตเป็นความบังเอิญ หรือมีการกดดันเจ้าหน้าที่หรือไม่ โดยในวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายนนี้ ตนเองและกรรมาธิการจะลงพื้นที่ไปยังบ้านกกกอก เพื่อพบกับแม่ของน้องชมพู่และเจ้าพนักงานสอบสวนเพื่อสอบถามว่าถูกกดดันในการทำคดีหรือไม่ พร้อมฝากถึงแม่น้องชมพู่ว่าอย่าให้ใครคนใดคนหนึ่งมาปิดช่องทางและโอกาสจะได้รับความช่วยเหลือด้านความยุติธรรม เพราะทราบว่ามีความพยายามจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ กีดกันไม่ให้ตนลงพื้นที่ไปพบกับแม่น้องชมพู่ เพราะนายอัจฉริยะบอกตนเองว่าหากจะเดินทางไปหาแม่น้องชมพู่จะต้องไปขออนุญาตนายอัจฉริยะก่อนซึ่งตนก็สงสัยว่านายอัจฉริยะเป็นใคร
นายสิระ ยืนยันว่า การให้นายไชย์พลเดินทางมายื่นหนังสือในวันนี้ (9 มิ.ย.) ไม่มีประเด็นทางการเมืองเพื่อกลบกระแสข่าวการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพียงแต่นัดหมายล่วงหน้าไว้แล้ว และวันนี้กรรมาธิการฯยังไม่ได้รับเรื่องไว้พิจาณา แต่จะนำคำร้องนี้ไปหารือร่วมกันภายในกรรมาธิการก่อน เพื่อขอมติจากที่ประชุมก่อนว่า จะรับไว้พิจารณาหรือไม่ ตรวจสอบต่อหรือไม่
ทั้งนี้ หลังจากยื่นหนังสือเสร็จ ป้าแต๋นได้นำผ้าทอมือของจังหวัดมุกดาหารให้นายไชย์พลนำผ้าดังกล่าวผูกเอวนายสิระ โดยระบุว่าเป็นของที่ระลึกมามอบให้กับนายสิระ บอกว่าไม่เกิน 3,000 บาทมอบให้ได้ เช่นเดียวกับนายสิระที่พูดติดตลกว่า ของชิ้นนี้ไม่เกิน 3,000 บาทใช่หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายความและนายไชย์พล เดินทางมาล่าช้ากว่ากำหนด 3 ชั่วโมง เนื่องจากตามกำหนดการเดิม ทนายความและนายไชย์พล แจ้งว่าจะเข้าพบคณะกรรมาธิการฯในเวลา 10.00 น. แต่เหตุที่ล่าช้าเนื่องจากไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รับประทานอาหารที่จังหวัดสมุทรสาคร ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจึงเดินทางมายังรัฐสภา โดยทางทนายความชี้แจงว่า ได้ติดต่อมาเลื่อนนัดกับนายสิระแล้ว เมื่อถามว่า การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยในคดีนี้ได้หรือไม่ ทนายความกล่าวว่า ไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น แต่เป็นเพียงความเชื่อของคนไทย และครั้งแรกจะสักการะศาลหลักเมืองในกรุงเทพมหานคร แต่พบว่าปิดให้เข้าเนื่องจากสถานการณ์โควิ-19 จึงเปลี่ยนไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จังหวัดสมุทรสาครแทนทำให้ต้องเลื่อนนัดและได้แจ้งมาทางผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว.- สำนักข่าวไทย