ยธ.22ก.พ.-‘สุวพันธุ์’เผยไม่เอาผิดกรณีพระวัดพระธรรมกายนำเบอร์มือถือส่วนตัวโพสต์ทางสื่อออนไลน์ พร้อมระบุถึงกำหนดเส้นตายการตรวจค้นวัด ไม่มี ดำเนินไปตามกรอบกฎหมายและไม่ไช้ความรุนแรง
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกายของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ตอนนี้ทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนอกเหนือจากฝ่ายความมั่นคง ทั้งมหาเถรสมาคม เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ซึ่งทราบว่าเรื่องของการพูดคุยร่วมกับทางวัดพระธรรมกาย ก็ค่อนข้างมีความคืบหน้าไปพอสมควร
รัฐบาลก็ได้เน้นย้ำผ่านกระทรวงฯถึงเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการว่า ขอให้ทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำงานด้วยความอดทนอดกลั้น และรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำลงไป ยืนยันว่าเวลานี้เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานตามหน้าที่ และอยากขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งวัด พระ และลูกศิษย์ เพื่อให้ปฏิบัติการครั้งนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี และให้ได้ข้อยุติที่เป็นผลดีแก่ส่วนรวมทั้งหมด
ส่วนหมายค้นที่ขอไว้ 10 วันขณะนี้ผ่านมาแล้ว 1สัปดาห์เป็นที่พอไจหรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการ ก็ยังคงเดินหน้าขอตรวจค้นเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีข้อสงสัยในบางประเด็น โดยขอให้เป็นดุลยพินิจของฝ่ายปฎิบัติ ตนคงไม่ไปก้าวก่ายการทำหน้าที่แต่ทราบว่านอกจากฝ่ายความมั่นคง ยังมีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และมหาเถรสมาคมเข้าร่วมตรวจค้นด้วย ประชาชนจึงมั่นใจได้ว่าทุกอย่างที่ทำไป ดำเนินการภายใต้ข้อกฎหมาย ตามมาตรฐานสากลอย่างแน่นอน ส่วนหากสิ้นสุดกำหนดตามหมายค้นจะขอเพิ่มวันหรือไม่ เรื่องนี้คงไม่ต้องขอเพราะยังอยู่ภายใต้อำนาจตามมาตรา 44 ที่ยังคงให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นได้อยู่จนกว่าจะได้ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์
ด้านข้อห่วงใยจากสมเด็จพระสังฆราชในเรื่องนี้ โดยมีพระบัญชาให้มีการเจรจากันนั้น รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ทราบมาตลอด ว่าทรงห่วงใยเรื่องนี้อย่างยิ่ง ซึ่งทุกภาคส่วนก็ไม่นิ่งนอนใจ หารือร่วมกันทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางโทรศัพท์ ประชุมร่วม ช่วยกันแก้ปัญหาตลอด อย่างไรก็ตามทรงไม่ได้เสนอแนวทางใดมาเป็นพิเศษเพราะขณะนี้เป็นการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนหลังจากนี้กระทรวงยุติธรรมจะเข้าไปดำเนินการร่วมกับ พศ.หรือ มส.หรือไม่นั้น ขอให้จบภารกิจตามมาตรา 44 ก่อน
สำหรับเรื่องเส้นตายที่สิ้นสุดปฎิบัติการครั้งนี้ คงยังไม่สามารถกำหนดได้ชัดเจน เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบก็มีวิธีการหลากหลายรูปแบบ สิ่งที่อยากเห็นหลังจากนี้ คือให้ทุกอย่างออกมาเป็นไปตามกรอบกฎหมาย และไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ดังนั้นกำหนดเส้นตายก็คงไม่มี กำหนดกรอบเวลาก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ทำไปตามความเหมาะสม ตอนนี้สิ่งที่ทำมี 2 เรื่องหลักคือ1.การนำตัวพระธัมชโย มอบให้อัยการดำเนินคดีตามกฎหมาย จะพบหรือไม่พบก็เป็นเรื่องการปฎิบัติ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ จึงยังตอบไม่ได้ ส่วนที่ 2 คือการดำเนินการทำให้วัดพระธรรมกาย เป็นเหมือนเฉกเช่นกับวัดปกติทั่วไปที่อยู่ในความรับผิดชอบ พศ.และ มส.เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 หน่วยงานต้องเข้ามามีส่วนร่วมกันในอนาคต
ส่วนกรณีที่พระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ฝ่ายประชาสัมพันธ์ วัดพระธรรมกายมีการโพสต์เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวและของภรรยาในเฟสบุ๊ก ส่วนตัว จนมีคนโทรศัพท์ไปป่วนตลอดคืนนั้น ในเรื่องนี้ นายสุวพันธุ์ ตอบคำถามเพียงสั้นๆว่า “ผมไม่ทะเลาะกับพระ สังคมรู้ดี อะไรควร หรือไม่ควร” .-สำนักข่าวไทย