รัฐสภา 30 ส.ค.-สนช.ผ่านร่างงบประมาณ ปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท รัฐบาลรับข้อสังเกตและขอบคุณที่ผ่านความเห็นชอบ ยืนยันจะยึดหลักใช้งบประมาณ โปร่งใส สุจริต และตรวจสอบได้
ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (30 ส.ค.) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. เป็นประธานการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท ในวาระ 2 และ 3 ซึ่งมีทั้งสิ้น 61 มาตรา กรรมาธิการฯ พิจารณาปรับแก้ไป 54 มาตรา
โดยนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว เสนอรายงานต่อที่ประชุม ยืนยันว่าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้รับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน พิจารณาจากความเชื่อมโยงและการกำหนดพันธกิจของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงและขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล เพื่อให้เกิดความชัดเจน ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ สามารถประเมินผลการดำเนินงานได้อย่างแท้จริง เพื่อจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ได้พิจารณาปรับลดงบประมาณลง จำนวน 24,222,829,100 บาท โดยได้พิจารณาปรับลดเพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณประจำปี เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและมีขีดความสามารถในการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเข้มงวด ทั้งนี้โครงการที่ปรับลด เป็นโครงการที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และมีผลการดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนงาน ซึ่งคาดว่าจะไม่สามารถใช้จ่ายงบประมาณได้จริง นอกจากนี้ยังนำงบประมาณส่วนที่ปรับลดไปปรับเพิ่มให้กับหน่วยงานที่มีงบประมาณและแผนงานรองรับอย่างชัดเจนที่สอดคล้องกับแผนปฏิรูประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการอภิปรายของสมาชิก สนช.เป็นไปด้วยความราบรื่น มีสมาชิก สนช.ไม่ถึง 10 คน อภิปรายซักถามการจัดสรรเงินงบประมาณ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงบประมาณการท่องเที่ยว งบโลจิสติกส์ งบประมาณการศึกษา งบประมาณปราบปรามยาเสพติด และงบประมาณการจัดทำฐานข้อมูลกลางของกระทรวงมหาดไทย เช่น นายกิตติ วะสีนนท์ สนช.อภิปรายถามความชัดเจนถึงการให้ความสำคัญต่อการจัดสรรงบประมาณให้กับกระทรวงการต่างประเทศ เพราะในปี 2562 ประเทศไทยมีภารกิจสำคัญ คือ การเป็นประธานอาเซียน ซึ่งหากงบประมาณไม่เพียงพอ อาจกระทบถึงภารกิจ อีกทั้งหากต้องอาศัยงบกลาง หวั่นจะติดปัญหาใน พ.ร.บ.วินัยการคลัง ที่มีหลักเกณฑ์เข้มงวด
นายอดิศักดิ์ ชี้แจงว่า การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาเซียนปี 2562 ทำให้รัฐบาลต้องจัดการประชุม ทั้งระดับรัฐมนตรี เศรษฐกิจ และประชุมอื่น ๆ จึงต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อรองรับให้ประเทศไทยดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์แบบบ ตามที่ประเทศไทยได้รับคำชมจากนานาประเทศมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมาธิการฯ ยังชี้แจงกรณีที่ตัดลดงบประมาณเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดออก 17 ล้านบาทว่าได้ตัดงบที่ไม่จำเป็นออก เช่น การอบรมสัมมนา นอกจากนี้ยังชี้แจงกรณีที่ตัดลดงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กว่า 1,000 ล้านบาท เพราะโครงการต่าง ๆ ล่าช้า เช่น โครงการก่อสร้าง และการจัดซื้อกระสุน ซึ่งแม้ตัดลดงบในปีนี้ลง แต่ยังคงงบโครงการเท่าเดิม โดยจะสามารถไปเบิกจ่ายได้ในปี 2563
ทั้งนี้ภายหลังใช้เวลาพิจารณาประมาณ 3 ชั่วโมง ที่ประชุม สนช.ลงมติเอกฉันท์ด้วยคะแนน 206 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ผ่านความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณสมาชิก สนช. และกรรมาธิการที่ร่วมกันพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณฯ และผ่านความเห็นชอบ โดยจะรับข้อสังเกต ข้อแนะนำต่าง ๆ ไปพิจารณา เพราะเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการและการใช้จ่ายงบประมาณ
“นายกรัฐมนตรีได้กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าให้ส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ใช้จ่ายงบประมาณ บนพื้นฐานยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และฐานแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ” นายสุวพันธุ์ กล่าว
นายสุวพันธุ์ กล่าวยืนยันว่า การจัดสรรงบประมาณในปีนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและเป็นไปตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อโครงการต่าง ๆ ที่จะเกิดความทันสมัยให้แก่ประเทศ โดยรัฐบาลกำลังปรับปรุงแผนแม่บทให้ยึดโยงแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อให้เกิดแผนปฏิบัติการของกระทรวงต่าง ๆ ซึ่งจะต่อเนื่องถึงการจัดทำงบปี 2563 ด้วย
“ขอนำข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี แจ้งต่อที่ประชุม สนช. ว่า รัฐบาลมุ่งเน้นบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์และเชิงพื้นที่เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ให้มีศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และรัฐบาลจะติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง โดยได้รับความร่วมมือจากองค์กรกลาง พร้อมจะยึดหลักใช้งบประมาณ โปร่งใส สุจริต ตรวจสอบได้ และสนับสนุนภาคประชาชนเข้ามาติดตามธรรมาภิบาลภาครัฐ และให้ความสำคัญผลสัมฤทธิ์ในการใช้จ่ายงบประมาณ” นายสุวพันธุ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดทำงบประมาณภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล คสช. ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปี 2562 พบว่า มียอดเงินงบประมาณรวมกว่า 14 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณขาดดุลติดต่อกันทุกปี รวม 2.1 ล้านล้านบาท ขณะที่งบของกระทรวงกลาโหม ซึ่งถูกจับตามาโดยตลอดได้รับการอนุมัติ รวมแล้วเกือบ 1 ล้านล้านบาท.-สำนักข่าวไทย