สนช.ผ่านร่างงบประมาณปี 62

รัฐสภา 30 ส.ค.-สนช.ผ่านร่างงบประมาณ ปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท รัฐบาลรับข้อสังเกตและขอบคุณที่ผ่านความเห็นชอบ ยืนยันจะยึดหลักใช้งบประมาณ โปร่งใส สุจริต และตรวจสอบได้


ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (30 ส.ค.) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. เป็นประธานการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท ในวาระ 2 และ 3 ซึ่งมีทั้งสิ้น 61 มาตรา กรรมาธิการฯ พิจารณาปรับแก้ไป 54 มาตรา 

โดยนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว เสนอรายงานต่อที่ประชุม ยืนยันว่าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้รับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน พิจารณาจากความเชื่อมโยงและการกำหนดพันธกิจของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงและขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล เพื่อให้เกิดความชัดเจน ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ สามารถประเมินผลการดำเนินงานได้อย่างแท้จริง เพื่อจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ได้พิจารณาปรับลดงบประมาณลง จำนวน 24,222,829,100 บาท โดยได้พิจารณาปรับลดเพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณประจำปี เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและมีขีดความสามารถในการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเข้มงวด ทั้งนี้โครงการที่ปรับลด เป็นโครงการที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และมีผลการดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนงาน ซึ่งคาดว่าจะไม่สามารถใช้จ่ายงบประมาณได้จริง นอกจากนี้ยังนำงบประมาณส่วนที่ปรับลดไปปรับเพิ่มให้กับหน่วยงานที่มีงบประมาณและแผนงานรองรับอย่างชัดเจนที่สอดคล้องกับแผนปฏิรูประเทศ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการอภิปรายของสมาชิก สนช.เป็นไปด้วยความราบรื่น มีสมาชิก สนช.ไม่ถึง 10 คน อภิปรายซักถามการจัดสรรเงินงบประมาณ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงบประมาณการท่องเที่ยว งบโลจิสติกส์ งบประมาณการศึกษา งบประมาณปราบปรามยาเสพติด และงบประมาณการจัดทำฐานข้อมูลกลางของกระทรวงมหาดไทย เช่น นายกิตติ วะสีนนท์ สนช.อภิปรายถามความชัดเจนถึงการให้ความสำคัญต่อการจัดสรรงบประมาณให้กับกระทรวงการต่างประเทศ เพราะในปี 2562 ประเทศไทยมีภารกิจสำคัญ คือ การเป็นประธานอาเซียน ซึ่งหากงบประมาณไม่เพียงพอ อาจกระทบถึงภารกิจ อีกทั้งหากต้องอาศัยงบกลาง หวั่นจะติดปัญหาใน พ.ร.บ.วินัยการคลัง ที่มีหลักเกณฑ์เข้มงวด 

นายอดิศักดิ์ ชี้แจงว่า การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาเซียนปี 2562 ทำให้รัฐบาลต้องจัดการประชุม ทั้งระดับรัฐมนตรี เศรษฐกิจ และประชุมอื่น ๆ จึงต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อรองรับให้ประเทศไทยดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์แบบบ ตามที่ประเทศไทยได้รับคำชมจากนานาประเทศมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมาธิการฯ ยังชี้แจงกรณีที่ตัดลดงบประมาณเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดออก 17 ล้านบาทว่าได้ตัดงบที่ไม่จำเป็นออก เช่น การอบรมสัมมนา นอกจากนี้ยังชี้แจงกรณีที่ตัดลดงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กว่า 1,000 ล้านบาท เพราะโครงการต่าง ๆ ล่าช้า เช่น โครงการก่อสร้าง และการจัดซื้อกระสุน ซึ่งแม้ตัดลดงบในปีนี้ลง แต่ยังคงงบโครงการเท่าเดิม โดยจะสามารถไปเบิกจ่ายได้ในปี 2563


ทั้งนี้ภายหลังใช้เวลาพิจารณาประมาณ 3 ชั่วโมง ที่ประชุม สนช.ลงมติเอกฉันท์ด้วยคะแนน 206 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ผ่านความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณสมาชิก สนช. และกรรมาธิการที่ร่วมกันพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณฯ และผ่านความเห็นชอบ โดยจะรับข้อสังเกต ข้อแนะนำต่าง ๆ ไปพิจารณา เพราะเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการและการใช้จ่ายงบประมาณ

“นายกรัฐมนตรีได้กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าให้ส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ใช้จ่ายงบประมาณ บนพื้นฐานยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และฐานแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ” นายสุวพันธุ์ กล่าว

นายสุวพันธุ์ กล่าวยืนยันว่า การจัดสรรงบประมาณในปีนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและเป็นไปตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อโครงการต่าง ๆ ที่จะเกิดความทันสมัยให้แก่ประเทศ โดยรัฐบาลกำลังปรับปรุงแผนแม่บทให้ยึดโยงแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อให้เกิดแผนปฏิบัติการของกระทรวงต่าง ๆ ซึ่งจะต่อเนื่องถึงการจัดทำงบปี 2563 ด้วย

“ขอนำข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี แจ้งต่อที่ประชุม สนช. ว่า รัฐบาลมุ่งเน้นบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์และเชิงพื้นที่เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ให้มีศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และรัฐบาลจะติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง โดยได้รับความร่วมมือจากองค์กรกลาง พร้อมจะยึดหลักใช้งบประมาณ โปร่งใส สุจริต ตรวจสอบได้ และสนับสนุนภาคประชาชนเข้ามาติดตามธรรมาภิบาลภาครัฐ และให้ความสำคัญผลสัมฤทธิ์ในการใช้จ่ายงบประมาณ” นายสุวพันธุ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดทำงบประมาณภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล คสช. ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปี 2562 พบว่า มียอดเงินงบประมาณรวมกว่า 14 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณขาดดุลติดต่อกันทุกปี รวม 2.1 ล้านล้านบาท  ขณะที่งบของกระทรวงกลาโหม ซึ่งถูกจับตามาโดยตลอดได้รับการอนุมัติ รวมแล้วเกือบ 1 ล้านล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]