“สิริพงศ์” ชี้ เปิดด่านต้องให้ทหาร–คนพื้นที่ร่วมพิจารณา

กทม. 12 ก.ย.- “สิริพงศ์” ชี้ เปิดด่าน ต้องให้ทหาร–คนพื้นที่ร่วมพิจารณา มั่นใจ รมว.กลาโหม มีท่าทีเปลี่ยน หลังรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงข้อกังวลของสังคมที่มีต่อการผ่อนปรนการเปิดด่านชายแดนไทย–กัมพูชา ตามข้อตกลงของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า สิ่งสำคัญที่ยังน่าห่วงคือการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่พิพาท แม้จะถือเป็นก้าวหนึ่งของการลดความตึงเครียด แต่การที่กองกำลังทหารยังคงปักหลักในแนวชายแดนก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรปล่อยผ่าน จำเป็นต้องหาทางออกอย่างจริงจัง นายสิริพงศ์ยกตัวอย่างกรณีพื้นที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ซึ่งยังมีชาวกัมพูชาเข้ามาอยู่อาศัยอยู่ในเขตแดนไทย ถือเป็นประเด็นที่รัฐบาลไทยต้องผลักดันให้มีการจัดการอย่างเด็ดขาดและถูกต้องตามกฎหมาย หากบุคคลเหล่านั้นจะอยู่หรือจะกลับเข้ามา ต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับข้อถกเถียงในสังคมเกี่ยวกับการปิด–เปิดด่านชายแดน นายสิริพงศ์เสนอว่า กองทัพควรหารือร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อชั่งน้ำหนักทั้งมิติด้านความมั่นคงและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เพราะเข้าใจดีว่าผู้ประกอบการต้องพึ่งพาการค้าชายแดน หลายครอบครัวไม่มีเงินเดือนประจำ การค้าขายจึงเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชีวิต รัฐบาลและทุกฝ่ายจึงจำเป็นต้องหาทางออกร่วมกัน “รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญต่อการทำให้ประชาชนกลับมามีชีวิตปกติ แต่ขณะเดียวกัน เรื่องอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศ ต้องปกป้องเต็มกำลัง” นายสิริพงศ์กล่าว พร้อมย้ำว่ากองทัพคือหน่วยงานด่านหน้าในพื้นที่ชายแดนที่มีบทบาทสำคัญที่สุด จึงควรได้รับอำนาจในการตัดสินใจตามสถานการณ์ นายสิริพงศ์ ยังกล่าวถึง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ซึ่งปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และมีชื่อเป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลใหม่ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่า การเข้าร่วมการประชุมที่ผ่านมา เป็นไปตามกรอบของรัฐบาลชุดก่อน […]

ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังปกติ ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 6 ก.ย.- สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เหตุการณ์ปกติ ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว พร้อมติดตามผลการประชุม GBC ที่เกาะกง พรุ่งนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) รายงานสถานการณ์ชายแดน 11 จุด ใน 7 จังหวัด โดยรวมยังคงปกติ กองทัพไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาและป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยในทุกรูปแบบ โดยวานนี้ ศบ.ทก. ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่าทั้ง 2 ฝ่ายยังคงมีการตรึงกำลังในที่มั่นของตนเอง และมีการตรวจพบความเคลื่อนไหวจากฝ่ายกัมพูชา ที่มีการตรวจพบการใช้“โดรน”อย่างต่อเนื่อง และมีการใช้กระสอบทรายและท่อนไม้เพื่อปรับปรุงฐานที่มั่นของกัมพูชาบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยได้มีจัดกำลังประจำจุดเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมตอบโต้ตามสถานการณ์ หากมีการรุกล้ำอธิปไตย ขณะเดียวกัน รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ออกมาชี้แจงตอบโต้ฝ่ายกัมพูชา ที่ออกแถลงการณ์ประท้วงไทย ว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนกัมพูชาในพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยประเทศไทยย้ำว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนและอธิปไตยของไทยมานานแล้ว และประเทศไทย ได้ให้ใช้เป็นที่พักพิงยามสงคราม และดำเนินการตามกฎหมายไทย รวมถึงการปฏิบัติตามหลักสากล ทั้งนี้ ในวัน 7-10 กันยายน […]

แจ้งความเขมรผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ จ่อถก GBC ที่เกาะกง 7-10 ก.ย.

ทำเนียบ 3 ก.ย.- ศบ.ทก.รับทราบสถานการณ์บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว แจ้งความดำเนินคดีชาวกัมพูชาบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ก่อนเสนอ สมช.รับทราบ ชี้คณะ IOT ย้ำไม่ตัดสินปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ใครผิดถูก แต่จะเสนอรายงานต่อ ผบ.ทสส.-รมว.กห. 2 ประเทศ เตรียมประชุม GBC ระหว่าง 7-10 ก.ย. ที่เกาะกง พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก.แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) มีเรื่องที่จะชี้แจง 4 ประเด็นคือ 1. สถานการณ์พื้นที่ชายแดนโดยภาพรวม ยังคงมีการตรึงกำลังและเฝ้าระวังทั้งสองฝ่าย แต่สถานการณ์โดยทั่วไปยังอยู่ในภาวะสงบยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในห้วงเวลาที่ผ่านมา ส่วนผลการดำเนินงานของคณะผู้สังเกตการณ์ หรือ IOT ซึ่งได้ลงพื้นที่ เมื่อวานนี้ การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยกองบัญชาการกองทัพไทยที่นำคณะลงพื้นที่ ไปยังพื้นที่หน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ซึ่งอยู่ภายใต้การทำงานของกองทัพเรือ โดยได้รับการต้อนรับจากหน่วย เฉพาะกิจนาวิกโยธินจังหวัดตราด จากนั้นได้เดินทางไปจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก เพื่อสำรวจหลักเขตที่ 73 ซึ่งถือเป็นหลักเขตสุดท้ายทางบกในการปักปันเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งตั้งอยู่บ้านหาดเล็กจังหวัดตราด จากนั้นคณะได้เดินทางไปยังกองร้อยทหารพรานที่ 537 รับทราบการปฎิบัติงานและเก็บกู้ทุ่นวัตถุระเบิด […]

เก็บหลักฐานเหตุสู้รบ วันที่ 2 พิสูจน์ความเสียหายโบราณสถาน

2 ก.ย.- กองทัพบก–นิติวิทยาศาสตร์ เก็บหลักฐานเหตุสู้รบชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 2 มุ่งพิสูจน์ความเสียหายโบราณสถาน–ศาสนสถาน ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ กองทัพบกยังคงปฏิบัติภารกิจลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บหลักฐานจากเหตุการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม หลังจากสถานการณ์การปะทะชายแดนคลี่คลายลง และหน่วย EOD ของทหารและตำรวจได้เข้าเคลียร์พื้นที่จนปลอดภัยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ก.ย. 68) ได้ดำเนินการเก็บหลักฐานในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม และวัดไทยนิยมพัฒนาราม ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจุดที่เข้าตรวจสอบความเสียหายมีดังนี้ สำหรับการปฏิบัติภารกิจร่วมกันครั้งนี้ กองทัพบกได้รับการสนับสนุนจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลหลายฉบับ ทั้ง ISO 9001, ISO/IEC 17020 และ ISO/IEC 17025 มาใช้ในกระบวนการเก็บและวิเคราะห์พยานหลักฐาน เพื่อให้ข้อมูลที่ได้มีความน่าเชื่อถือสูงสุด โดยทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทำการวิเคราะห์วิถีการยิงและเก็บวัตถุพยานอย่างละเอียด ทั้งนี้การโจมตีต่อโบราณสถานและสถานที่ทางศาสนาดังกล่าวถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ซึ่งผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์เหล่านี้จะถูกส่งมอบ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ดำเนินการในเวทีระหว่างประเทศ เช่น การยื่นเรื่องต่อองค์กรเฉพาะทางอย่างยูเนสโก (UNESCO) เพื่อปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม, การแสวงหาความยุติธรรมผ่านกระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ ไปจนถึงการใช้ช่องทางการทูตต่อไป -สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งตั้ง “ศบ.ทก.” ใหม่ เนื่องจากคำสั่งเดิมสิ้นสภาพตามนายกฯ

กรุงเทพฯ 31 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลงนามคำสั่งตั้ง “ศบ.ทก.” ขึ้นใหม่เพื่อให้การบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชามีความต่อเนื่อง เหตุคำสั่งเดิมสิ้นสภาพตามนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 275/2568 จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ขึ้นใหม่ แทนคำสั่งเดิมที่สิ้นสภาพไปพร้อมนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การบริหารจัดการสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีเอกภาพ ศบ.ทก. มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้อำนวยการศูนย์ โดยมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ และมีผู้แทนระดับสูงจากกระทรวง หน่วยงานด้านความมั่นคง กองบัญชาการเหล่าทัพ ตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ สำนักข่าวกรอง และผู้แทนหรือผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการและเลขานุการ ศบ.ทก. มีอำนาจและหน้าที่หลัก ได้แก่ ทั้งนี้ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ต้องให้ความร่วมมือโดยชี้แจงข้อเท็จจริงหรือส่งเอกสารหลักฐานตามที่ศูนย์ร้องขอ ขณะที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติจะรับผิดชอบงานธุรการ การจัดโครงสร้าง การรายงาน และการติดตามประเมินผล โดยใช้งบประมาณตามระเบียบของทางราชการ เมื่อสถานการณ์ชายแดนเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้อำนวยการศูนย์ต้องรายงานต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อยกเลิกคำสั่งดังกล่าวคำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2568 . 512 – สำนักข่าวไทย

“เศรษฐา” จ่อส่งมอบบังเกอร์ เสริมชุมชนติดชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 28 ส.ค.- “เศรษฐา” ตรวจโรงงานผลิตบังเกอร์ ก่อนมอบให้ชาวบ้านชายแดนไทย-กัมพูชา เพิ่ม 20 ลูก ชี้ ไม่ใช่แค่สิ่งปลูกสร้าง แต่เป็นเกราะกำบังแห่งความอุ่นใจ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพและข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า โรงงานพรีคาสท์ที่เดิมเริ่มต้นจากการผลิตชิ้นส่วนของที่อยู่อาศัย วันนี้ได้หันมาผลิต “บังเกอร์” เพื่อเป็นที่หลบภัยในยามที่มีสถานการณ์ไม่ปลอดภัย ผมมาตรวจความเรียบร้อยก่อนส่งมอบบังเกอร์เพิ่มอีก 20 ลูก ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา หลังจากก่อนหน้านี้เราส่งไปแล้ว 30 ลูก บังเกอร์ทั้งหมดนี้น่าจะช่วยรองรับได้หลายร้อยชีวิตเลยครับ โรงงานนี้เป็นของแสนสิริ มีกำลังการผลิตได้กว่าปีละล้านตารางเมตร การแบ่งเวลามาสร้างบังเกอร์เหล่านี้จริง ๆ ก็ไม่ได้กระทบอะไรใหญ่โต แต่สิ่งที่เราได้กลับมา มันมากกว่าคอนกรีตแน่นอนครับ นี่ไม่ใช่แค่สิ่งปลูกสร้าง แต่คือ “เกราะกำบังแห่งความอุ่นใจ” ที่ช่วยให้พ่อแม่ ลูกหลาน และทุกคนในชุมชน มั่นใจได้ว่ามีที่พึ่ง มีที่หลบภัย ไม่ต้องเผชิญความไม่แน่นอนเพียงลำพัง ผมเชื่อว่า ความแข็งแรงของประเทศ เริ่มจากความมั่นคงของประชาชนก่อนเสมอ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งก้าวเล็ก ๆ ที่เราตั้งใจทำ เพื่อไปสู่ก้าวที่ใหญ่กว่าของสังคมไทยในอนาคต” .-316 -สำนักข่าวไทย

ชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัดสถานการณ์ยังปกติ

ทำเนียบ 23 ส.ค.- ไทยพร้อมปฏิบัติตามข้อตกลง RBC เพื่อสันติภาพของภูมิภาค ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่ 7 จังหวัด ยังปกติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) สรุปสถานการณ์ชายแดน 11 จุด ใน 7 จังหวัด จากฝ่ายความมั่นคง ยังคงปกติ กองทัพไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับมือทุกความเคลื่อนไหว และพร้อมตอบโต้ หากมีการละเมิดอธิปไตยไทย สำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย–กัมพูชา สมัยวิสามัญ วานนี้ (วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2568) ณ มณฑลทหารบกที่ 19 จ.สระแก้ว ทั้งสองฝ่ายได้มีการลงนามบันทึกความตกลงเพิ่มเติมจากเดิม 13 จากประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่มาเลเซีย เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา อีก 3 ข้อ […]

รัฐบาลย้ำให้ความสำคัญสูงสุดปกป้องอธิปไตย-เยียวยา

ทำเนียบ 20 ส.ค.- รัฐบาลอัปเดตความคืบหน้าการดำเนินงานตามมติ ครม. เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ย้ำให้ความสำคัญสูงสุดปกป้องอธิปไตย ดูแลความมั่นคง และเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวสรุปการดำเนินงานของรัฐบาลและคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ถึงความคืบหน้าการดำเนินงานของรัฐบาลตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน ครอบคลุมทุกมิติ รอบคอบ และเป็นไปตามกฎกติกาสากล โดยมีประเด็นที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 4 ประเด็น ดังนี้ ประการแรก เรื่องการปกป้องอธิปไตยของประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการเคลื่อนไหวเชิงรุกในเวทีระหว่างประเทศ รวมถึงชี้แจงต่อองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมและกองทัพไทยวางกำลังรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน พร้อมควบคุมจุดผ่านแดนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ประการที่สอง การดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชน กระทรวงมหาดไทย ได้เสริมกำลังดูแลพื้นที่ส่วนหลัง จัดตั้งศูนย์พักพิงดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ขณะที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ทำงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ตรวจสอบเส้นทาง ยุทธวิธี และจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็น โดยกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ปรับรูปแบบการเรียนการสอน และจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับนักเรียนและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบส่วนกระทรวงขณะเดียวกันกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งศูนย์ประสานงานบริการกลุ่มเปราะบาง พร้อมจัดหาอุปกรณ์จำเป็นแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ […]

จับ 4 แรงงานกัมพูชาหนีความลำบาก ลักลอบเข้าไทย

สระแก้ว 20 ส.ค. – สกัดจับ 4 แรงงานกัมพูชา ลอบเข้าไทย หลังกลับบ้านเกิดในช่วงเหตุความไม่สงบตามแนวชายแดน แต่ชีวิตลำบาก ไม่มีงานทำ จึงเสี่ยงเดินเท้าลอบเข้าไทย หวังไปทำงานซ่อมรองเท้าที่ตลาดโรงเกลือ กองกำลังบูรพา ร่วมกับ ฉก.อรัญประเทศ และกองร้อยทหารพรานที่ 1201 ออกปฏิบัติการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดน บริเวณบ้านดงงู อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว แต่ระหว่างทางตรวจพบบุคคลต้องสงสัย 4 คน เป็นชาย 1 หญิง 3 กำลังเดินเท้าลักลอบเข้ามาจากฝั่งประเทศกัมพูชา ทั้งหมด เป็นแรงงานชาวกัมพูชา และไม่มีเอกสารการเดินทางเข้าเมืองใดๆ จึงถูกควบคุมตัวมาสอบสวน โดยทั้งหมดให้การตรงกันว่าเดินทางมาจากจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ตั้งใจเข้ามาทำงานซ่อมรองเท้าที่ตลาดโรงเกลือ แม้จะรู้ว่าการลักลอบเข้าเมืองเป็นความผิด แต่ยอมเสี่ยงเพราะชีวิตความเป็นอยู่ที่บ้านเกิดลำบาก ไม่มีรายได้ และขาดโอกาสในการทำงาน โดย 1 ในแรงงาน ยังให้ข้อมูลว่าก่อนหน้านี้เคยทำงานในตลาดโรงเกลืออย่างถูกกฎหมาย แต่หลังเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อ 24 กรกฎาคม 68 ต้องตัดสินใจกลับบ้านเกิด เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย แต่ว่าหลังกลับไปอยู่ที่เมืองปอยเปต กลับไม่มีงานทำ เงินเก็บก็หมดลง […]

กองทัพไทยแจงข้อเท็จจริงปมทุ่นระเบิดชายแดนไทย–กัมพูชา

17 ส.ค.- กองทัพไทย ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีทุ่นระเบิดชายแดนไทย–กัมพูชา หลังสื่อออนไลน์ของฝ่ายกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนในสื่อออนไลน์ของฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับทุ่นระเบิดที่ตรวจพบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสังคม ดังนี้ จากเหตุการณ์ที่กำลังพลไทย 5 นาย ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ผลการตรวจพิสูจน์โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 “ใหม่ทั้งหมด” ที่ถูกวางแบบพร้อมใช้งาน โดยมีการถอดอุปกรณ์ Safety และกลบพรางอย่างแนบเนียน สภาพทุ่นมีความใหม่ ตัวอักษรคมชัด และเมื่อรื้อถอนพบว่าสปริง เข็มแทงชนวน และชิ้นส่วนภายในอยู่ในสภาพใหม่สมบูรณ์ ไม่ใช่ทุ่นเก่าตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง นอกจากนี้ บริเวณภูมะเขือยังตรวจพบทุ่นระเบิดอยู่ในสองลักษณะ โดยลักษณะแรกคือทุ่น PMN-2 ที่ยังไม่ได้ใช้งาน หางปลา (safety pin) ยังคงติดอยู่ครบถ้วน สะท้อนให้เห็นว่ากัมพูชามีทุ่นชนิดนี้ไว้ครอบครองเพื่อเตรียมใช้งาน ซึ่งถือว่าละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโดยตรง และมีหลักฐานเชื่อมโยงว่าทุ่นเหล่านี้ถูกนำไปใช้งานจริงในหลายพื้นที่ รวมถึงกรณีที่ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ ส่วนอีกลักษณะหนึ่งเป็นทุ่นที่รื้อถอนขึ้นจากพื้นดินในสภาพที่ถูกวางใช้งานแล้ว อยู่ในสภาพพร้อมทำงาน บางลูกมีร่องรอยของเข็มแทงชนวนที่เริ่มทำงานแต่ยังไม่สมบูรณ์ การรื้อถอนดำเนินการโดยทหารราบเพื่อรวบรวมไว้ และต่อมาส่งให้เจ้าหน้าที่ TMAC […]

“จิรายุ” ไม่เชิญแล้ว “ไมเคิล” บอก “จบข่าวไม่ต้องมาเหยียบแผ่นดินไทย”

กทม. 17 ส.ค. – “จิรายุ” ยันรัฐบาลเตรียมนำสื่อระดับโลกลงพื้นที่กองกำลังสุรนารี ดูจุดกัมพูชาถล่มพื้นที่พลเรือน ส่วนกรณี “ไมเคิล” บอก “จบข่าว” ไม่เชิญมาแล้ว หลังอ้างตัวเป็น “สื่อประจำทำเนียบขาว” ที่แท้เป็นล็อบบี้ยิสต์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่ารัฐบาลเตรียมนำสื่อมวลชนระดับโลกลงพื้นที่กองกำลังสุรนารี จังหวัดสุรินทร์ สัปดาห์หน้า ในจุดที่ไทยถูกอาวุธหนักของกัมพูชาถล่ม อาทิ โรงพยาบาล โรงเรียนและพื้นที่พลเรือน จากนั้นจะเชิญสื่อมวลชนระดับโลกไปยังพื้นที่ที่รวบรวมกับระเบิดที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้โดย TMAC ก่อนจะให้ชมการปฏิบัติการทำลายวัตถุระเบิดที่ตกค้างจากการรุกล้ำอธิปไตยไทย ส่วนกรณีสำนักข่าวของกัมพูชารายงานข่าวของนายไมเคิล อัลฟาโร ชาวสหรัฐ ที่ไลฟ์สดชายแดนกัมพูชา-ไทย ด้วยการเซตฉากและกล่าวอ้างว่าตนเองเป็นสื่อมวลชนประจำทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และกล่าวหาประเทศไทย ด้วยถ้อยคำรุนแรง ใส่ร้ายป้ายสีไทยด้านเดียว “สัปดาห์ที่แล้วอยากเชิญนายไมเคิลที่กล่าวอ้างว่าเป็นนักข่าวประจำทำเนียบขาว อยากให้มาเห็นของจริงในฝั่งไทยที่โดนเขมรถล่มหนักแค่ไหน นายไมเคิลมีการไลฟ์สดพูดโกหกใส่ร้ายป้ายสีไทยไปทั่วโลก และบอกว่าตนเองเป็นสื่อรัฐบาลสหรัฐ จะฟ้องประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งตนเห็นว่าหากมาเห็นอีกมุมที่ประเทศไทยโดนกัมพูชาโจมตีทั้งโรงเรียน พื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ก็เป็นประโยชน์หากเป็นนักข่าวประจำทำเนียบขาวจริง แต่ขณะนี้พบว่านายไมเคิล ไม่ได้เป็นนักข่าวประจำทำเนียบขาวจริง แถมยังแอบอ้างถึงประธานาธิบดีสหรัฐ วันนี้ตนจึงขอบอกว่า “จบข่าว” ไม่ต้องมาเหยียบแผ่นดินไทยต่อไป” นายจิรายุ กล่าว. -สำนักข่าวไทย

CAAT ผ่อนปรนใช้ “โดรนเกษตร”

กทม. 9 ส.ค.-CAAT ประกาศผ่อนปรนเฉพาะโดรนเกษตร 11 ส.ค. เป็นต้นไป ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ออกประกาศฉบับที่ 3 ยังคงห้ามทำการบินอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ทุกประเภททั่วราชอาณาจักร จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยทางการบินในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป CAAT จะผ่อนปรนอนุญาตเฉพาะการบินโดรนเพื่อการเกษตร ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ได้แก่•ผู้บังคับโดรนและตัวโดรนต้องขึ้นทะเบียนกับ CAAT ครบถ้วน และยังไม่หมดอายุ•ได้รับอนุญาตปฏิบัติการบินเพื่อการเกษตรจาก CAAT•ไม่มีประวัติฝ่าฝืนหรือถูกเพิกถอนสิทธิการบิน•ทำการบินได้เฉพาะในพื้นที่เกษตรของตน หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่•แจ้งการบินล่วงหน้าอย่างน้อย 12 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ uasportal.caat.or.th หรือแอปพลิเคชัน UAS Portal ของ CAAT หรืออีเมล ศตอ.น. antidrone.police@gmail.com หรือ ตำรวจท้องที่ หรือกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน•ความสูงการบินไม่เกิน 30 เมตร•ทำการบินได้ระหว่างเวลา […]

1 2
...