20 พฤษภาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง / เรียบเรียง โดย : อดิศร สุขสมอรรถ / พีรพล อนุตรโสตถิ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้ปรับปรุงข้อมูลลักษณะการติดต่อของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบุเชื้อไวรัสโควิด-19 มีโอกาสล่องลอยอยู่ในอากาศได้นานหลายนาทีถึงหลายชั่วโมง สามารถรับเชื้อผ่านการสูดดมละอองฝอย น้ำมูก น้ำลายขนาดเล็กๆ ได้ โดยกรณีดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้หากผู้ป่วยพูดหรือหายใจโดยไม่สวมหน้ากาก และจะเกิดขึ้นในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทได้ไม่ดี
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ปรับปรุงใหม่นี้ ไม่ได้ส่งผลให้ประชาชนต้องปรับเปลี่ยนวิธีหรือแนวทางการป้องกันที่แนะนำอยู่แล้วแต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention – CDC) ได้ปรับปรุงข้อมูลลักษณะการติดต่อของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ ดังนี้ SARS-CoV-2 แพร่เชื้อผ่านสารคัดหลั่งทางเดินหายใจ จะแพร่กระจายผ่านการหายใจ, การพูดคุย, ร้องเพลง, ออกกำลังกาย, ไอ และจาม (Respiratory Fluids) และสามารถติดต่อกันได้ผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้
1. หายใจเอาละอองขนาดเล็ก (Small Fine Droplets) และละอองลอย (Aerosol Particles) ที่มีเชื้อไวรัสเข้าไปในร่างกาย โดยระยะใกล้กว่า 3 ถึง 6 ฟุต มีความเสี่ยงมากที่สุด
2. เยื่อเมือก (Mucous Membranes) เช่น ปาก จมูก ดวงตา ฯลฯ สัมผัสกับเชื้อไวรัสโดยตรงจากการถูกไอจามใส่
3. เยื่อเมือกสัมผัสเชื้อไวรัสทางอ้อม โดยนำมือที่เปื้อนเชื้อไวรัสไปสัมผัสปาก จมูก ดวงตา ฯลฯ
สารคัดหลั่งทางเดินหายใจและขนาดของละอองแบ่งได้ 2 ประเภทดังนี้
1.ละอองขนาดใหญ่จะสลายในอากาศอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่กี่วินาทีหรือไม่กี่นาที
2.เมื่อละอองมีความแห้งมาก จะกลายเป็นละอองขนาดเล็กหรือละอองลอย ซึ่งมีขนาดเล็กมากจนลอยอยู่ในอากาศได้นานหลายนาทีถึงหลายชั่วโมง
ความเสี่ยงในการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ขึ้นอยู่กับปริมาณไวรัสที่ได้รับ โดยโอกาสติดเชื้อจะลดลงเมื่อระยะห่างจากแหล่งแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น และระยะเวลาหลังการแพร่เชื้อนานขึ้น
ปัจจัยที่ใช้พิจารณาปริมาณไวรัสในอากาศมี 2 ข้อ ดังนี้
1.การลดความเข้มข้นของไวรัสจะเกิดขึ้น เมื่อละอองที่มีขนาดใหญ่ตกลงสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วง ส่วนละอองขนาดเล็กและละอองลอยที่อยู่ในอากาศ ถูกผสมและเจือจางไปกับอากาศโดยรอบ
2.ความสามารถในการอยู่รอดและการติดเชื้อของไวรัสจะลดลงตามระยะเวลา ปัจจัยมาจากอิทธิพลของสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ, ความชื้น และแสงอาทิตย์
การติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ผ่านการหายใจ สามารถเกิดขึ้นได้แม้จะอยู่ห่างจากแหล่งแพร่เชื้อเกิน 6 ฟุตประมาณ 183 เซนติเมตร
แม้การติดเชื้อโควิด-19 ผ่านทางการหายใจในระยะห่างจากแหล่งแพร่เชื้อเกิน 6 ฟุต จะเกิดขึ้นได้ยาก แต่เริ่มพบรายงานการติดเชื้อในระยะห่างเกิน 6 ฟุตมากขึ้นเรื่อยๆ การติดเชื้อในลักษณะนี้ เกิดขึ้นกับคนที่อยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อในอาคารปิดเป็นเวลานานเกินกว่า 15 นาที หรือหลายชั่วโมง ทำให้ไวรัสในอากาศมีความเข้มข้นพอที่จะแพร่เชื้อไปยังผู้ที่อยู่ห่างจากแหล่งแพร่เชื้อเกิน 6 ฟุตได้ บางกรณียังเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้พื้นที่ต่อจากผู้ติดเชื้อที่ออกจากพื้นที่นั้นๆ ไปได้ไม่นาน โดยปัจจัยของการติดเชื้อในลักษณะนี้ ได้แก่
1.พื้นที่ปิดซึ่งมีการระบายอากาศไม่เพียงพอ ทำให้ความเข้มข้นของไวรัสในอากาศมีมาก โดยเฉพาะละอองขนาดเล็กและละอองลอยที่อยู่ในอากาศ
2.มีการปล่อยสารคัดหลั่งจากการหายใจมากขึ้น เมื่อผู้ติดเชื้อออกแรงมากขึ้นหรือใช้เสียงมากขึ้น เช่น ระหว่างออกกำลังกาย ตะโกนเชียร์ หรือร้องเพลง
3.อยู่ในสภาพแวดล้อมดังกล่าวนานเกินไป ส่วนใหญ่จะนานกว่า 15 นาที
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแนวทางการป้องกันการติดเชื้อโควิด 19
- ปัจจุบันยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ไวรัส SARS-CoV-2 ต้องมีปริมาณเท่าไหร่ถึงจะทำให้ติดเชื้อโควิด-19 ได้
- มีหลักฐานใหม่พบว่า การสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนไวรัสอาจไม่ใช่ช่องทางหลักในการติดเชื้อ
- แต่กระนั้นแนวทางในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันยังคงมีประสิทธิภาพที่ดี ทั้งการเว้นระยะห่างทางสังคม, การสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี, อยู่ในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศเพียงพอ, และหลีกเลี่ยงการรวมตัวเป็นหมู่คณะในสถานที่ปิด
- วิธีเหล่านี้สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ผ่านทางการหายใจและการสัมผัสเชื้อโดยตรงได้ ส่วนการสัมผัสทางอ้อมจากมือที่มีเชื้อปนเปื้อน สามารถป้องกันได้ด้วยการหมั่นล้างมือและทำให้สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยมีความสะอาดเสมอ
- อย่างไรก็ตาม แม้การรับรู้ลักษณะการติดเชื้อจะเปลี่ยนไป แต่แนวทางป้องกันการติดเชื้อที่แนะนำโดย CDC ยังคงป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดิม
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.thelancet.com/journals/lancet/article/PIIS0140-6736(21)00869-2/fulltext
https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/science/science-briefs/sars-cov-2-transmission.html
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter